ก้าวสู่ตลาดโลกผ่าน e-Commerce ไม่ใช่เรื่องยาก
ประสบการณ์จริงจากผู้ประกอบการ ฟรี 100 ท่านแรก เท่านั้น!!
ขอเชิญร่วมสัมมนาภายใต้กิจกรรม E-Commerce Clinic for SMEs ภูมิภาค
ในหัวข้อ “ธุรกิจไทยก้าวไกลระดับโลกด้วยพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์”
เวลา : วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2553 เวลา 9:00-16:00 น.
สถานที่: มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานหลักในการพัฒนาผู้ประกอบการพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยการส่งเสริมการสร้างกลไกที่ก่อให้เกิดตวามรู้ความเข้าใจในการทำพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์ ตลอดจนสามารถประยุกต์ใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการพัฒนาขีดความสามารถในการทำการค้าในตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จัดกิจกรรม E-Commerce Clinic for SMEs ในภูมิภาคในปี 2553 โดยมีศูนย์ดำเนินการที่จังหวัดเพชรบุรี และในครั้งนี้ทางกรมฯจึงได้สัมมนาในหัวข้อ “ธุรกิจไทยก้าวไกลระดับโลกด้วยพาณิชย์อีเล็กทรอนิกส์” ในวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม 2553 เวลา 9:00-16:00 น. ณ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี
ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเห็นว่าการสัมมนาในครั้งนี้เป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการ จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านเข้าร่วมสัมมนาดังกล่าวโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และกรุณากรอกเอกสารยืนยันการเข้าร่วมสัมมนา(แนบเอกสารยืนยันทางอีเมล์) พร้อมส่งกลับมาที่ โทรสาร 02-9649110 หรืออีเมล์ e-commerce@dbd.go.th
ภายในวัน พฤหัสบดี ที่ 9 ธันวาคม 2553
download เอกสารยืนยันการเข้าร่วมสัมมนาที่นี่ (ไฟล์ MS Word)
กำหนดการสัมมนา
09.00 น. – 10.00 น. ลงทะเบียน แขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน
10.00 น. – 10.15 น. พิธีกรกล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชน
10.15 น. – 10.30 น. แถลงข่าวภาพรวม ที่มา และวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่คาดว่าจะได้รับของกิจกรรม E-Commerce Clinic for SMEs ภูมิภาค
โดย นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
10.30 น. – 10.40 น. พิธีเปิดกิจกรรมฯ
10.40 น. – 12.00 น. บรรยาย หัวข้อ “เทคนิคการทำอย่างไรให้ขึ้นหน้าหนึ่ง Search Engine” โดย
คุณสืบศักดิ์ ลิ่วลักษณ์ Executive online marketing บริษัท หรอยอินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการดันเว็บไซต์ขึ้นหน้าแรกของ Google
12.00 น. – 13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน
13.00 น. – 14.30 น. เสวนาร่วม หัวข้อ “ธุรกิจไทยก้าวไกลระดับโลกด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” โดย
- คุณบุรินทร์ เกล็ดมณี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แกรนแพลนเน็ทเอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ ReadyPlanet.com เว็บไซต์สำเร็จรูปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และบุกตลาดโลกมาแล้ว
- คุณภูวดล กาฬะคะชา เจ้าของเว็บไซต์ www.audiocity2u.com ผู้ประกอบการ e-Commerce ที่ประสบความสำเร็จในตลาดโลก
- ดร.วรัญญู สุจิวรพันธ์พงศ์ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ และการค้าในตลาดโลกผ่าน e-Commerce
ดำเนินการเสวนาโดย คุณธีรเทพ สอสกุล เจ้าของเว็บไซต์ Siamnaliga.com ชุมชนนาฬิกาออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
14.30 น. – 14.45 น. พักรับประทานอาหารว่าง
14.45 น. – 15.30 น. เสวนาร่วม หัวข้อ “ธุรกิจไทยก้าวไกลระดับโลกด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์”(ต่อ)
15.30 น. – 15.45 น. เปิดให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาซักถาม
15.45 น. – 16.00 น. เปิดให้สื่อมวลชนซักถาม พิธีกรกล่าวสรุปงาน และถ่ายภาพร่วมกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณชวนันท์ สันตินานาเลิศ
โทรศัพท์ : 086-5067302
โทรสาร : 02-9649110
อีเมล์ : chawanun@hroyy.com
หมายเหตุ : สำหรับท่านที่เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ได้รับสิทธิ์ในการสำรองที่นั่งหลักสูตรอบรมเชิงปฏิบัติการการตลาดออนไลน์ (e-marketing workshop) อบรม 3 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
เปลี่ยนวิกฤต…ให้เป็นโอกาส…คนที่จะรวยจะต้องคิดเสมอว่า วิกฤตของคนทั่วไป มันอาจจะคือโอกาสของเราก็ได้ เพราะฉะนั้น ทุกครั้งที่เจอวิกฤต เราต้องมานั่งคิดว่า ในวิกฤตินั้น มีโอกาสอะไรให้เราบ้าง ถ้าคุณหาเจอความรวยก็จะวิ่งมาหาคุณ…
วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553
ทวิภาค สมชาย
"ผม เป็นคนเรียนเก่งมาก คือเรียนชั้นละ 2 ปี" คุณสมชาย เปิดประเด็นด้วยการยิงมุขเรียกเสียงหัวเราะ ก่อนเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาแบบเปิดเผยว่า ตัวเขาความจำไม่ค่อยดี ลักษณะเหมือนคนความจำสั้น เรียนได้ไม่เกิน 10 นาที เริ่มรู้สึกเบลอคล้ายมีอาการผิดปกติทางสมอง เวลาสอบไล่ทีไร มักได้ลำดับบ๊วยอยู่เสมอ หรืออาจได้รองบ๊วยบ้าง ถ้าเทอมนั้นมีคนขาดสอบ
แต่ด้วยความที่ไม่เป็นเด็กเกเร คุณครูจึงเมตตานำข้อสอบมาให้ทำถึงที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงไม่จบ ป.5
เมื่อค้นพบว่าการเอาดีทางเรียนหนังสือคงลำบาก จึงตัดสินใจยุติการเรียนในระบบแล้วออกมาหางานทำ...ทำงานสุจริตทุกอย่างที่ได้เงิน
"ขาย มาแล้วแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ หัวอาหารสัตว์ ยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ย ปลาร้า ยาเส้น หนังสือพิมพ์ กระทั่งน้ำอัดลม" คุณสมชาย เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนให้ข้อมูลน่าสนใจว่า ช่วงที่เขาทำงานอยู่กับ "เป๊ปซี่" ส่งสินค้าให้ตามร้านค้าในตัวจังหวัดอุบลราชธานีนั้น เคยได้รับรางวัลเป็นพนักงานขายดีเด่น ทำยอดขายได้มากที่สุดถึง 1,222 ลัง ต่อวัน
คู่สนทนาแทบตกเก้าอี้ เมื่อได้ยินสถิติของยอดขายดังกล่าว จึงถามไถ่ถึงเทคนิคส่วนตัว คุณสมชาย จึงบรรยายให้เห็นภาพที่ดูเหมือนง่ายว่า
"อาศัย ตื่นเช้าและกลับดึก การออกจากบ้านแต่เช้าทำให้มีโอกาสไปไกลกว่า และสามารถเพิ่มรอบการทำงานได้มากกว่าคนอื่น และต้องไม่มองว่าร้านนี้ซื้อเท่าไหร่ ผมขายให้หมด 10 ลังก็ขาย ครึ่งลังก็ขาย เวลาผ่านไปร้านไหน ต้องเข้าไปสวัสดีครับ เป๊ปซี่มาเยี่ยมครับ ทำอย่างนี้ทุกร้านต้องขายได้ทุกร้าน คนอื่นเขาอาจไปเยี่ยม 50-60 ราย ต่อวัน แต่ผมต้องเยี่ยมให้ได้ 300-400 ราย ต่อวัน"
คุณสมชายเป็นพนักงานขายดีเด่น ติดต่อกันนาน 3 ปี จึงตัดสินใจลาออก เพื่อ "ล่าฝัน" ครั้งยังเยาว์
"เป็นความฝันตั้งแต่เป็นเด็กว่าอยากเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ เคยไปเกาะกระจกโชว์รูม แล้วคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้เป็น จนเข้ากรุงเทพฯ เห็นแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าเต็มไปหมด เลยวิเคราะห์เองว่ารถแท็กซี่ต้องวิ่งวันละ 24 ชั่วโมง รถจึงต้องทนทาน ถ้าได้เป็นตัวแทนของโตโยต้า คงทำงานไม่ยาก เพราะผลิตภัณฑ์เขาดี" เจ้าของเรื่องราว เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มธุรกิจในฝัน
และ ก่อนก้าวขึ้นเป็นตัวแทนจำหน่าย คุณสมชายเคยทำงานเป็นเซลส์ขายรถยนต์โตโยต้าประจำดีลเลอร์แห่งหนึ่งในจังหวัด อุบลราชธานีมาก่อน แต่กว่าจะได้เข้ามาจับงานขาย ด้วยความที่จบเพียงชั้น ป.5 เขาจึงต้องเริ่มต้นด้วยการทำหน้าที่ปัดกวาดและทำงานทุกอย่างตามแต่เถ้าแก่ บัญชาเสียก่อน
ครั้นเมื่อวันเวลาผ่านไปได้ราว 15 ปี เขาจึงมีโอกาสผงาดขึ้นเป็น "เถ้าแก่" เองบ้าง
"พอ ถึงวันที่ทำได้อย่างฝัน เลยใส่ทุกอย่างเข้าไปเต็มที่ โชว์รูมของผม มีร้านอาหาร ห้องรับรอง ร้านเสริมสวย ร้านกาแฟ คาราโอเกะ เรียกว่าครบวงจร
แต่เดิมมีพื้นที่ 22 ไร่เศษ ลงทุนไป 800 ล้านบาท และตอนนี้กำลังขยายไปอีก 60 ไร่" คุณสมชาย เล่าน้ำเสียงไม่โอ้อวด แต่ท้าทายต่อว่า
"ถ้าใครเจอโชว์รูมหรือศูนย์บริการที่ไหนดีกว่าของผม ผมให้แสนนึงเลย"
ดีเยี่ยม ไม่เป็นรอง
ที่หนึ่ง...เท่านั้น
ความมั่นใจว่าอาณาจักรของเขา "ดีเยี่ยม" ไม่เป็นรองใครนั้น คุณสมชายมีข้อมูลมายืนยัน โดยแจงให้ฟังดังตัวอย่าง
"ลูกค้า ที่มาซื้อรถที่ดีเยี่ยม จะรู้สึกเหมือนไปซื้อรถที่ห้างสยามพารากอน เพราะผมสร้างโชว์รูม ที่หรูหรา สง่างาม แค่เดินผ่านห้องน้ำ ฝาชักโครกยกขึ้นอัตโนมัติ น้ำไหลใส่มือไม่ต้องบิด ทุกอย่างอัตโนมัติหมด"
"โตโยต้าดีเยี่ยมไม่ได้ขายรถถูกกว่าตัวแทนจำหน่ายอื่น แต่ลูกค้าประทับใจในบริการ พอมาจอดรถปั๊บ เจ้าหน้าที่จะประกาศว่าขณะนี้มีลูกค้าท่านนั้นท่านนี้มาออกรถใหม่ ขอให้พนักงานทุกคนที่ว่างเว้นจากการทำงานมาร่วมพิธีส่งมอบรถ ซึ่งมีพนักงานมาร่วมส่งเป็นร้อยครับ" คุณสมชาย เล่าจบประโยคนี้ มีปฏิกิริยาตื่นเต้นจากคนฟังในวันนั้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนสำทับถึงความดีเยี่ยมในแบบของเขาต่อว่า
"ลูกค้า ที่มาซื้อรถ ต้องรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของโชว์รูมมูลค่านับพันล้านบาทที่เปิด 365 วัน จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ มีคาราโอเกะ ร้านเสริมสวย ไว้คอยให้บริการฟรีหมด เขาต้องรู้สึกว่าเสียเงินซื้อรถแล้วคุ้มค่า แล้วเวลาลูกค้าเข้ามาหาโชว์รูม ไม่ต้องเดินนะครับ มีรถกอล์ฟพาเที่ยวชมแต่ละจุด เรียกว่าลูกค้าทุกคนเป็นวีไอพีเหมือนกันหมด"
สนทนา มาถึงตรงนี้มีคำถามทำไมต้องใช้คำว่า "ดีเยี่ยม" เจ้าของกิจการมูลค่าพันล้านบาท จึงอธิบายด้วยเสียงดังฟังชัดว่า เป็นความตั้งใจจริงของเขาที่ต้องการอยู่ใน "อันดับหนึ่ง" เท่านั้น ทั้งๆ ที่สมัยเรียนหนังสือเขาครองอันดับบ๊วยมาตลอด
"ตอน เปิดบริษัท มีการมอบนโยบาย ผมบอกกับลูกน้องว่า ต้องการที่หนึ่งอย่างเดียว ที่สองก็ไม่เอา ปรากฏว่าทุกคนในบริษัทออกอาการมึนงง และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะในประเทศไทยมีตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าถึง 200 กว่าแห่ง"
"แต่ ผมก็ฝ่าฟันจากอันดับ 80 กว่ามาเป็น 50 กว่า เดี๋ยวนี้ขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งแล้ว หมายความว่าความพึงพอใจจากลูกค้าของผมมาเป็นอันดับหนึ่งครับ" คุณสมชาย เล่าก่อนยิ้มปลื้ม
ถาม ไถ่ถึงหลักในการบริหารคน คุณสมชายบอกเขามักพูดคุยให้คนที่เข้ามาสมัครเข้าทำงานเข้าใจว่า ชีวิตของทุกคนมีคุณค่าเหมือนกัน เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนจะเป็นทั้งลูก ทั้งน้อง ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี แต่ทุกคนต้องตั้งใจทำงานด้วย
"ผม บอกลูกน้องเสมอว่าคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่สามารถเลือกเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่มีความมุ่งมั่น อะไรที่คุณกลัวอย่าไปกลัว ให้เดินเข้าหามันเลย"
"มี ช่างคนหนึ่งมาปรึกษาผม บอกทำงานอยู่ 3 ปี อยากเป็นเซลส์แต่ทำไม่ได้ ผมบอกยังไม่ลอง แล้วรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้ ปรากฏเดือนแรกเขาขายได้ 22 คัน เดือนที่สองได้อีก เดือนที่สามก็ได้อีก เทคนิคที่ผมบอกเขาไปคือคุณต้องฉกฉวยโอกาส มาถึงแต่เช้า เที่ยงไม่กิน เย็นเพื่อนเลิกงานแล้ว ก็ยังไม่กลับรอจนค่ำมืด สุดท้ายช่างคนนั้นกลายเป็นท็อปเซลส์ไปเลย" คุณสมชาย เล่าให้ฟัง
ฉกฉวยทุกโอกาส
เชื่อมั่น ทำได้
บุคลิก โดดเด่นของนักธุรกิจพันล้านท่านนี้ที่มีการกล่าวขานกันมากในหมู่ผู้ใกล้ชิด นั่นคือการใส่ใจในรายละเอียด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ "คนรอบตัว" ในทุกระดับ
ยก ตัวอย่างเมื่อครั้งการก่อสร้างโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชียใกล้เสร็จ เขาถือโอกาสเชิญช่างอิฐ-หิน-ปูน-ทราย รวมถึงผู้รับเหมาทุกคนมารับเลี้ยงโต๊ะจีน เพื่อแทนคำขอบคุณที่ทุกคนมาช่วยสร้างให้ฝันของเขาเป็นจริง
"ผม บอกกับช่างทุกคนว่า หากไม่มีพวกท่านโชว์รูมของผมคงไม่มีทางสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะออกใบประกาศให้พวกเขาเก็บไว้เป็นที่ระลึก หากวันไหนมีโอกาสผ่านไปมา สามารถเข้ามาเยี่ยมเยียนใช้บริการได้ทุกเวลา"
"ปรากฏช่างคนหนึ่งซาบซึ้งใจ อยากอุดหนุนผม จึงขอจองรถ 1 คัน กระทั่งจบงานเลี้ยง ผมขายรถให้กับผู้รับเหมาได้ทั้งหมด 55 คัน" คุณสมชาย เล่าเหมือนไม่ตื่นเต้น แต่ทำเอาคู่สนทนาตกใจแทบจะพลัดตกจากเก้าอี้เป็นครั้งที่สอง
ความ ละเอียดอ่อนของคุณสมชาย ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะช่วงเวลาที่เขากำลังมีความสุขกับอาณาจักรตรงหน้า แต่เขาก็ไม่เคยละเลย ระลึกถึง "ผู้มีพระคุณ" ซึ่งมีส่วนผลักดันให้เขาก้าวมาถึงฝั่งฝันดังเช่นทุกวันนี้
"ตอน จะเปิดโชว์รูมผมส่งจดหมายไปยังผู้มีพระคุณหลายๆ ท่าน ขอให้สละเวลามาเลือกรถไปใช้ตามชอบ โดยผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แต่ทุกท่านไม่ขอรับ ให้เหตุผลกลับมาว่า ให้ผมเก็บเอาไว้ทำทุน"
"ช่วง ปีใหม่ผมจึงนำเงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้กับพวกท่านอีก คราวนี้ทุกท่านรับไว้ แต่พอถึงเทศกาลตรุษจีน พวกท่านก็นำเงินก้อนนั้นกลับมามอบให้ผมเป็นแต๊ะเอีย" คุณสมชาย เล่า
ย้อน ถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งต้องฝ่าฟันมรสุม "ต้มยำกุ้ง" เมื่อครั้งปี 2540 คุณสมชาย ย้อนความทรงจำให้ฟังว่า ช่วงเวลานั้นสถาบันการเงิน 65 แห่งต้องปิดตัวลง นักธุรกิจแทบทุกวงการ ล้วนตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขา แต่หากมัวพร่ำบ่นว่าแย่ คงหมดกำลังใจไปนานแล้ว
"ผม ไม่เคยท้อ เพราะท้อแล้วไม่มีประโยชน์ ท้อแล้วมันทำให้หมดกำลังใจ เราต้องรีบอาบน้ำ แล้วเติมกำลังใจให้ตัวเองใหม่ เพราะคนเราขาดกำลังใจไม่ได้ ปัญหาคือความสำเร็จปลอมตัวมาทดสอบเรา เหมือนข้อสอบ" คุณสมชาย บอกจริงจัง ก่อนเผยกลยุทธ์เมื่อครั้งนั้น
"ช่วง เศรษฐกิจไม่ดี หลายคนคิดว่าไม่มีโอกาสเพราะตลาดเต็ม แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น กลับกันคือ ต้องเร่งขยายงาน เพราะคู่แข่งก็คือคู่แข่งอยู่ดี จึงต้องแตกต่างทำงานให้มากกว่าคนอื่น เมื่อมีคนตกงานมาสมัครงานกันมาก เลยสามารถคัดคนได้" คุณสมชาย เล่า ก่อนฝากมุมมองไว้ด้วยว่า คนที่ประสบความสำเร็จมักฉกฉวยโอกาสจากโชคร้าย แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าจะฉกฉวยในทุกโอกาส
แม้ จะจบการศึกษาในระบบเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หากแต่ว่ามาวันนี้ กลับได้เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตไม่น้อยหน้าใคร คงมีใครหลายคนตั้งคำถามถึงเคล็ดลับในการทำงาน ซึ่งคุณสมชายมักแนะนำให้คนเหล่านั้น จุด "ไม้ขีดไฟ" ก้านแรกให้กับชีวิตของตัวเองเสียก่อน และต้องมีความเชื่อมั่นว่าหากคนอื่นทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนอย่างเราทำไม่ได้ จากนั้นจึงลงมือปฏิบัติทันที
"ผม มักบอกทุกคนว่าไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดูถูก แต่เราอย่าดูถูกตัวเอง ต้องบอกกับตัวเองว่าเราเป็นคนมีศักยภาพ พ่อแม่ยังรอความหวังจากเรา ญาติพี่น้องยังรอความหวังจากเรา"
"ถ้า เราไม่จุดไม้ขีดไฟชีวิตตอนนี้ หรือไม่ปรับปรุงตัวให้มีความแตกต่างจากคนอื่น ปีหนึ่งๆ มีคนจบปริญญาตรี 600,000 คน ที่พร้อมจะมาเป็นคู่แข่ง ฉะนั้น คุณต้องถีบตัวเอง ไม่มีใครเขาสร้างบริษัทมูลค่าร้อยล้านพันล้านบาท เพื่อรอให้คุณทำงานให้เรื่อยๆ เฉื่อยๆ หรอก"
"คน ที่รู้จักใช้เวลา คือคนที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพราะเวลามันผ่านแล้วผ่านเลย ย้อนกลับมาไม่ได้ กลับมาเถิดวันวานมีแต่เสียงเพลง ชีวิตจริงมันไม่มีหรอกครับ"
แต่ด้วยความที่ไม่เป็นเด็กเกเร คุณครูจึงเมตตานำข้อสอบมาให้ทำถึงที่บ้าน ไม่อย่างนั้นคงไม่จบ ป.5
เมื่อค้นพบว่าการเอาดีทางเรียนหนังสือคงลำบาก จึงตัดสินใจยุติการเรียนในระบบแล้วออกมาหางานทำ...ทำงานสุจริตทุกอย่างที่ได้เงิน
"ขาย มาแล้วแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ หัวอาหารสัตว์ ยาปราบศัตรูพืช ปุ๋ย ปลาร้า ยาเส้น หนังสือพิมพ์ กระทั่งน้ำอัดลม" คุณสมชาย เล่าด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ก่อนให้ข้อมูลน่าสนใจว่า ช่วงที่เขาทำงานอยู่กับ "เป๊ปซี่" ส่งสินค้าให้ตามร้านค้าในตัวจังหวัดอุบลราชธานีนั้น เคยได้รับรางวัลเป็นพนักงานขายดีเด่น ทำยอดขายได้มากที่สุดถึง 1,222 ลัง ต่อวัน
คู่สนทนาแทบตกเก้าอี้ เมื่อได้ยินสถิติของยอดขายดังกล่าว จึงถามไถ่ถึงเทคนิคส่วนตัว คุณสมชาย จึงบรรยายให้เห็นภาพที่ดูเหมือนง่ายว่า
"อาศัย ตื่นเช้าและกลับดึก การออกจากบ้านแต่เช้าทำให้มีโอกาสไปไกลกว่า และสามารถเพิ่มรอบการทำงานได้มากกว่าคนอื่น และต้องไม่มองว่าร้านนี้ซื้อเท่าไหร่ ผมขายให้หมด 10 ลังก็ขาย ครึ่งลังก็ขาย เวลาผ่านไปร้านไหน ต้องเข้าไปสวัสดีครับ เป๊ปซี่มาเยี่ยมครับ ทำอย่างนี้ทุกร้านต้องขายได้ทุกร้าน คนอื่นเขาอาจไปเยี่ยม 50-60 ราย ต่อวัน แต่ผมต้องเยี่ยมให้ได้ 300-400 ราย ต่อวัน"
คุณสมชายเป็นพนักงานขายดีเด่น ติดต่อกันนาน 3 ปี จึงตัดสินใจลาออก เพื่อ "ล่าฝัน" ครั้งยังเยาว์
"เป็นความฝันตั้งแต่เป็นเด็กว่าอยากเป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ เคยไปเกาะกระจกโชว์รูม แล้วคิดว่า จะทำอย่างไรถึงจะได้เป็น จนเข้ากรุงเทพฯ เห็นแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้าเต็มไปหมด เลยวิเคราะห์เองว่ารถแท็กซี่ต้องวิ่งวันละ 24 ชั่วโมง รถจึงต้องทนทาน ถ้าได้เป็นตัวแทนของโตโยต้า คงทำงานไม่ยาก เพราะผลิตภัณฑ์เขาดี" เจ้าของเรื่องราว เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มธุรกิจในฝัน
และ ก่อนก้าวขึ้นเป็นตัวแทนจำหน่าย คุณสมชายเคยทำงานเป็นเซลส์ขายรถยนต์โตโยต้าประจำดีลเลอร์แห่งหนึ่งในจังหวัด อุบลราชธานีมาก่อน แต่กว่าจะได้เข้ามาจับงานขาย ด้วยความที่จบเพียงชั้น ป.5 เขาจึงต้องเริ่มต้นด้วยการทำหน้าที่ปัดกวาดและทำงานทุกอย่างตามแต่เถ้าแก่ บัญชาเสียก่อน
ครั้นเมื่อวันเวลาผ่านไปได้ราว 15 ปี เขาจึงมีโอกาสผงาดขึ้นเป็น "เถ้าแก่" เองบ้าง
"พอ ถึงวันที่ทำได้อย่างฝัน เลยใส่ทุกอย่างเข้าไปเต็มที่ โชว์รูมของผม มีร้านอาหาร ห้องรับรอง ร้านเสริมสวย ร้านกาแฟ คาราโอเกะ เรียกว่าครบวงจร
แต่เดิมมีพื้นที่ 22 ไร่เศษ ลงทุนไป 800 ล้านบาท และตอนนี้กำลังขยายไปอีก 60 ไร่" คุณสมชาย เล่าน้ำเสียงไม่โอ้อวด แต่ท้าทายต่อว่า
"ถ้าใครเจอโชว์รูมหรือศูนย์บริการที่ไหนดีกว่าของผม ผมให้แสนนึงเลย"
ดีเยี่ยม ไม่เป็นรอง
ที่หนึ่ง...เท่านั้น
ความมั่นใจว่าอาณาจักรของเขา "ดีเยี่ยม" ไม่เป็นรองใครนั้น คุณสมชายมีข้อมูลมายืนยัน โดยแจงให้ฟังดังตัวอย่าง
"ลูกค้า ที่มาซื้อรถที่ดีเยี่ยม จะรู้สึกเหมือนไปซื้อรถที่ห้างสยามพารากอน เพราะผมสร้างโชว์รูม ที่หรูหรา สง่างาม แค่เดินผ่านห้องน้ำ ฝาชักโครกยกขึ้นอัตโนมัติ น้ำไหลใส่มือไม่ต้องบิด ทุกอย่างอัตโนมัติหมด"
"โตโยต้าดีเยี่ยมไม่ได้ขายรถถูกกว่าตัวแทนจำหน่ายอื่น แต่ลูกค้าประทับใจในบริการ พอมาจอดรถปั๊บ เจ้าหน้าที่จะประกาศว่าขณะนี้มีลูกค้าท่านนั้นท่านนี้มาออกรถใหม่ ขอให้พนักงานทุกคนที่ว่างเว้นจากการทำงานมาร่วมพิธีส่งมอบรถ ซึ่งมีพนักงานมาร่วมส่งเป็นร้อยครับ" คุณสมชาย เล่าจบประโยคนี้ มีปฏิกิริยาตื่นเต้นจากคนฟังในวันนั้นอย่างเห็นได้ชัด ก่อนสำทับถึงความดีเยี่ยมในแบบของเขาต่อว่า
"ลูกค้า ที่มาซื้อรถ ต้องรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าของโชว์รูมมูลค่านับพันล้านบาทที่เปิด 365 วัน จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ มีคาราโอเกะ ร้านเสริมสวย ไว้คอยให้บริการฟรีหมด เขาต้องรู้สึกว่าเสียเงินซื้อรถแล้วคุ้มค่า แล้วเวลาลูกค้าเข้ามาหาโชว์รูม ไม่ต้องเดินนะครับ มีรถกอล์ฟพาเที่ยวชมแต่ละจุด เรียกว่าลูกค้าทุกคนเป็นวีไอพีเหมือนกันหมด"
สนทนา มาถึงตรงนี้มีคำถามทำไมต้องใช้คำว่า "ดีเยี่ยม" เจ้าของกิจการมูลค่าพันล้านบาท จึงอธิบายด้วยเสียงดังฟังชัดว่า เป็นความตั้งใจจริงของเขาที่ต้องการอยู่ใน "อันดับหนึ่ง" เท่านั้น ทั้งๆ ที่สมัยเรียนหนังสือเขาครองอันดับบ๊วยมาตลอด
"ตอน เปิดบริษัท มีการมอบนโยบาย ผมบอกกับลูกน้องว่า ต้องการที่หนึ่งอย่างเดียว ที่สองก็ไม่เอา ปรากฏว่าทุกคนในบริษัทออกอาการมึนงง และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะในประเทศไทยมีตัวแทนจำหน่ายโตโยต้าถึง 200 กว่าแห่ง"
"แต่ ผมก็ฝ่าฟันจากอันดับ 80 กว่ามาเป็น 50 กว่า เดี๋ยวนี้ขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งแล้ว หมายความว่าความพึงพอใจจากลูกค้าของผมมาเป็นอันดับหนึ่งครับ" คุณสมชาย เล่าก่อนยิ้มปลื้ม
ถาม ไถ่ถึงหลักในการบริหารคน คุณสมชายบอกเขามักพูดคุยให้คนที่เข้ามาสมัครเข้าทำงานเข้าใจว่า ชีวิตของทุกคนมีคุณค่าเหมือนกัน เมื่อเข้ามาแล้วทุกคนจะเป็นทั้งลูก ทั้งน้อง ซึ่งได้รับการดูแลอย่างดี แต่ทุกคนต้องตั้งใจทำงานด้วย
"ผม บอกลูกน้องเสมอว่าคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ แต่สามารถเลือกเป็นอะไรก็ได้ ขอแค่มีความมุ่งมั่น อะไรที่คุณกลัวอย่าไปกลัว ให้เดินเข้าหามันเลย"
"มี ช่างคนหนึ่งมาปรึกษาผม บอกทำงานอยู่ 3 ปี อยากเป็นเซลส์แต่ทำไม่ได้ ผมบอกยังไม่ลอง แล้วรู้ได้ยังไงว่าทำไม่ได้ ปรากฏเดือนแรกเขาขายได้ 22 คัน เดือนที่สองได้อีก เดือนที่สามก็ได้อีก เทคนิคที่ผมบอกเขาไปคือคุณต้องฉกฉวยโอกาส มาถึงแต่เช้า เที่ยงไม่กิน เย็นเพื่อนเลิกงานแล้ว ก็ยังไม่กลับรอจนค่ำมืด สุดท้ายช่างคนนั้นกลายเป็นท็อปเซลส์ไปเลย" คุณสมชาย เล่าให้ฟัง
ฉกฉวยทุกโอกาส
เชื่อมั่น ทำได้
บุคลิก โดดเด่นของนักธุรกิจพันล้านท่านนี้ที่มีการกล่าวขานกันมากในหมู่ผู้ใกล้ชิด นั่นคือการใส่ใจในรายละเอียด โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับ "คนรอบตัว" ในทุกระดับ
ยก ตัวอย่างเมื่อครั้งการก่อสร้างโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชียใกล้เสร็จ เขาถือโอกาสเชิญช่างอิฐ-หิน-ปูน-ทราย รวมถึงผู้รับเหมาทุกคนมารับเลี้ยงโต๊ะจีน เพื่อแทนคำขอบคุณที่ทุกคนมาช่วยสร้างให้ฝันของเขาเป็นจริง
"ผม บอกกับช่างทุกคนว่า หากไม่มีพวกท่านโชว์รูมของผมคงไม่มีทางสำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะออกใบประกาศให้พวกเขาเก็บไว้เป็นที่ระลึก หากวันไหนมีโอกาสผ่านไปมา สามารถเข้ามาเยี่ยมเยียนใช้บริการได้ทุกเวลา"
"ปรากฏช่างคนหนึ่งซาบซึ้งใจ อยากอุดหนุนผม จึงขอจองรถ 1 คัน กระทั่งจบงานเลี้ยง ผมขายรถให้กับผู้รับเหมาได้ทั้งหมด 55 คัน" คุณสมชาย เล่าเหมือนไม่ตื่นเต้น แต่ทำเอาคู่สนทนาตกใจแทบจะพลัดตกจากเก้าอี้เป็นครั้งที่สอง
ความ ละเอียดอ่อนของคุณสมชาย ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะช่วงเวลาที่เขากำลังมีความสุขกับอาณาจักรตรงหน้า แต่เขาก็ไม่เคยละเลย ระลึกถึง "ผู้มีพระคุณ" ซึ่งมีส่วนผลักดันให้เขาก้าวมาถึงฝั่งฝันดังเช่นทุกวันนี้
"ตอน จะเปิดโชว์รูมผมส่งจดหมายไปยังผู้มีพระคุณหลายๆ ท่าน ขอให้สละเวลามาเลือกรถไปใช้ตามชอบ โดยผมจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง แต่ทุกท่านไม่ขอรับ ให้เหตุผลกลับมาว่า ให้ผมเก็บเอาไว้ทำทุน"
"ช่วง ปีใหม่ผมจึงนำเงินสด 2 ล้านบาท ไปมอบให้กับพวกท่านอีก คราวนี้ทุกท่านรับไว้ แต่พอถึงเทศกาลตรุษจีน พวกท่านก็นำเงินก้อนนั้นกลับมามอบให้ผมเป็นแต๊ะเอีย" คุณสมชาย เล่า
ย้อน ถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งต้องฝ่าฟันมรสุม "ต้มยำกุ้ง" เมื่อครั้งปี 2540 คุณสมชาย ย้อนความทรงจำให้ฟังว่า ช่วงเวลานั้นสถาบันการเงิน 65 แห่งต้องปิดตัวลง นักธุรกิจแทบทุกวงการ ล้วนตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ไม่เว้นแม้แต่ตัวเขา แต่หากมัวพร่ำบ่นว่าแย่ คงหมดกำลังใจไปนานแล้ว
"ผม ไม่เคยท้อ เพราะท้อแล้วไม่มีประโยชน์ ท้อแล้วมันทำให้หมดกำลังใจ เราต้องรีบอาบน้ำ แล้วเติมกำลังใจให้ตัวเองใหม่ เพราะคนเราขาดกำลังใจไม่ได้ ปัญหาคือความสำเร็จปลอมตัวมาทดสอบเรา เหมือนข้อสอบ" คุณสมชาย บอกจริงจัง ก่อนเผยกลยุทธ์เมื่อครั้งนั้น
"ช่วง เศรษฐกิจไม่ดี หลายคนคิดว่าไม่มีโอกาสเพราะตลาดเต็ม แต่ผมไม่คิดอย่างนั้น กลับกันคือ ต้องเร่งขยายงาน เพราะคู่แข่งก็คือคู่แข่งอยู่ดี จึงต้องแตกต่างทำงานให้มากกว่าคนอื่น เมื่อมีคนตกงานมาสมัครงานกันมาก เลยสามารถคัดคนได้" คุณสมชาย เล่า ก่อนฝากมุมมองไว้ด้วยว่า คนที่ประสบความสำเร็จมักฉกฉวยโอกาสจากโชคร้าย แต่คนที่ประสบความสำเร็จมากกว่าจะฉกฉวยในทุกโอกาส
แม้ จะจบการศึกษาในระบบเพียงแค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หากแต่ว่ามาวันนี้ กลับได้เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โตไม่น้อยหน้าใคร คงมีใครหลายคนตั้งคำถามถึงเคล็ดลับในการทำงาน ซึ่งคุณสมชายมักแนะนำให้คนเหล่านั้น จุด "ไม้ขีดไฟ" ก้านแรกให้กับชีวิตของตัวเองเสียก่อน และต้องมีความเชื่อมั่นว่าหากคนอื่นทำได้ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่คนอย่างเราทำไม่ได้ จากนั้นจึงลงมือปฏิบัติทันที
"ผม มักบอกทุกคนว่าไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาดูถูก แต่เราอย่าดูถูกตัวเอง ต้องบอกกับตัวเองว่าเราเป็นคนมีศักยภาพ พ่อแม่ยังรอความหวังจากเรา ญาติพี่น้องยังรอความหวังจากเรา"
"ถ้า เราไม่จุดไม้ขีดไฟชีวิตตอนนี้ หรือไม่ปรับปรุงตัวให้มีความแตกต่างจากคนอื่น ปีหนึ่งๆ มีคนจบปริญญาตรี 600,000 คน ที่พร้อมจะมาเป็นคู่แข่ง ฉะนั้น คุณต้องถีบตัวเอง ไม่มีใครเขาสร้างบริษัทมูลค่าร้อยล้านพันล้านบาท เพื่อรอให้คุณทำงานให้เรื่อยๆ เฉื่อยๆ หรอก"
"คน ที่รู้จักใช้เวลา คือคนที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพราะเวลามันผ่านแล้วผ่านเลย ย้อนกลับมาไม่ได้ กลับมาเถิดวันวานมีแต่เสียงเพลง ชีวิตจริงมันไม่มีหรอกครับ"
เสี่ย สมชาย เหล่าสายเชื้อ เจ้าของโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชีย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgS-nNdPbUn5ureOAOAKfnQaS3hxsb86BKOzs9Dwuu_BvHCJt7RMt_ZdYd1R8oVjIyOMzwItXTaF4bKtVabWhlqvx1n_xSH8d-DWhNtZAtq5dz8HsGrcqjSdkRwGsLCKcdsPuPilqNCH8k/s320/toyota.jpg)
จบ ป.5 เป็นเจ้าของโชว์รูมโตโยต้า ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
Posted by Monchai
อ่านไม่ต้องจบก็เร้าใจมาก...ขอบอก
ท่าม กลางวิกฤตของแบรนด์ โตโยต้า ทั่วโลกที่ต้องเรียกคืนรถยนต์หลายรุ่นนับล้านคันมาแก้ไขข้อบกพร่อง แต่ที่ประเทศไทย โตโยต้า ยังครองยอดขายอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะ โตโยต้าดีเยี่ยม อุบลราชธานี ของเสี่ย สมชาย เหล่าสายเชื้อ เจ้าของโชว์รูมใหญ่ที่สุดในเอเชีย เบื้องหลังความสำเร็จ หนุ่มเมืองจันท์ แห่ง ฟาสต์ ฟู้ดธุรกิจ (คอลัมภ์นิสต์)จะเล่าให้ฟัง
"หนุ่มเมืองจันท์" เล่าว่า ผมเพิ่งกลับจากงาน "MICT สร้างคน สร้างชาติ" ที่จังหวัดอุบลราชธานี
ผมคุยกับ "สมชาย เหล่าสายเชื้อ" เจ้าของ "โตโยต้าดีเยี่ยม" ดีลเลอร์ขายรถโตโยต้ารายใหญ่ของอุบลราชธานี
บอกตรงๆ ว่าไม่รู้จัก ตอนอ่านข้อมูลของ "สมชาย" ที่ทีมงานส่งมาให้ก็เริ่มสนใจมากขึ้น แต่พอได้เจอตัวจริง ยิ่งคุยยิ่งตะลึง
"โตโยต้าดีเยี่ยม" เป็นโชว์รูมของโตโยต้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 22 ไร่เศษ ใช้เงินลงทุนกว่า 800 ล้านบาท และกำลังขยายไปอีก 60 ไร่
แต่ความยิ่งใหญ่ของ "โชว์รูม" นั้นไม่เท่ากับชีวิตของ "สมชาย"
ผม ชอบประโยคหนึ่งที่เขาบอกกับคณะกรรมการของ "โตโยต้า" ในช่วงการสัมภาษณ์ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการตัดสินว่าจะอนุมัติให้ "สมชาย" เป็น "ดีลเลอร์" ขายรถโตโยต้าหรือไม่
"ผมไม่มีอะไรที่เหนือกว่าคนอื่น ผมมีเพียงแค่ใจที่เหนือคน"
"ขนาดหัวใจ" ของ "สมชาย" คนนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับ
"สมชาย" จบแค่ ป.5
ตอนเรียนนั้น เขามีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าเด็กนักเรียนคนอื่นตรงที่เรียนชั้นละ 2ปีจนถึง ป.5ครูประจำชั้นทนไม่ได้ ต้องแอบเอาข้อสอบมาให้ที่บ้านกลัวว่าเขาจะสอบตก
"สมชาย" ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน ไปทำงานตามร้านขายของชำ ขายหนังสือพิมพ์ ฯลฯ
ทำทุกอย่างที่ได้เงิน
เขาเป็นคนสู้งาน ทำงานที่ไหนเถ้าแก่ก็รัก
วันหนึ่ง เขาไปทำงานที่บริษัทเสริมสุข ส่ง "เป๊ปซี่" ตามร้านต่างๆ ในจังหวัดอุบลฯ
ทำงานไม่กี่เดือน เขาก็ได้เป็น "พนักงานขายดีเด่น" ที่ทำยอดขายสูงสุดในประเทศไทย 1,200 กว่าลังต่อวัน
จำนวนลังที่ขายได้ต่อวันมากกว่าปริมาณที่รถจะบรรทุกได้
ครับ เขาขาย 2 รอบ
เคล็ดลับการขายของ "สมชาย" ก็คือ ออกรถเช้ากว่าคนอื่น
เขาออกรถตั้งแต่ตีห้า 11โมงเขาก็ขายหมด
*******************************************************************************
สุดยอดสัมนาครั้งต่อไป มีนาคม 2013 สนใจโทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430
AutoGenic สัญจร เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น.
สถานที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้ (ใกล้วัดพระสิงห์)
คุณเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ประสบความสำเร์จในชีวิตมั้ย?
คุณจิตนาการภาพความสำเร็จของคุณไม่ออกใช่รึเปล่า?
คุณกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสำเร็จเหมือนคนอื่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มั้ย?
คุณกำลังรู้สึกว่าคุณไม่เก่งเหมือนคนอื่น...
คุณคิดว่าการหาคนที่คิดเหมือนคุณ มีเป้าหมายใหญ่เหมือนคุณมันช่างยากเย็น...
ขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปฃะด้วย Autogenic Training
นี่คือคำตอบ...ของความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
"สุดยอดยอดคอร์สการโปรแกรมจิตแบบที่คนสำเร็จทุกคนรู้ แต่ไม่เคยบอก"
อบรม วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น
รวมค่าอาหาร 2 มื้อ คอฟฟี่เบรก ๅ เบรก
คอร์สมูลค่ามากกว่า 5000 บาท ในราคาพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ในราคาเพียงท่านละ 1000 บาท เท่านั้น
ปล สำหรับเด็กตั้งแต่ 12-15 ปี ราคาพิเศษ 800 บาท/ท่าน
ด่วนจำนวนจำกัดแค่ 100 ท่านแรกเท่านั้น
โทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430 คุณธนพนธ์ 090 798 3374
*********************************************************************************************************************************
กลับมาบรรทุก "เป๊ปซี่" ใหม่อีกเที่ยวหนึ่ง แล้วตระเวนไปตามร้านอื่นๆ ต่อ
"ผมไม่ได้ขายแค่ร้านริมถนน แต่ในซอย หรือตามบ้าน ผมก็ส่ง"
3 ปีผ่านไป เขาก็ยังรักษาสถิตินักขายดีเด่นเอาไว้ได้
ซึ่งตามหลักเขาควรจะได้รับการโปรโมตในตำแหน่งที่สูงขึ้น
แต่ "สมชาย" ไม่ได้ ด้วยเหตุผลว่าตำแหน่งผู้จัดการนั้นต้องมีอายุ 36 ปีขึ้นไป
"สมชาย" ตัดสินใจลาออก
และเดินตามความฝันในวัยเด็กของเขา
เขาชอบ "รถยนต์"
"สมชาย" เดินไปสมัครงานที่ "โตโยต้าอุบลราชธานี" ดีลเลอร์ขายรถโตโยต้าเก่าแก่ในเมืองอุบลฯ
คำถามแรกที่เจอก็คือ "จบอะไรมา"
พอบอกว่า ป.5
เถ้าแก่ก็ปฏิเสธ
"ตอนนี้เขารับแต่ ปริญญาตรี หรือ ปวส."
"สมชาย" รู้ว่าคุณสมบัติสู้ไม่ได้ เขาจึงยื่นข้อเสนอใหม่
เป็นข้อเสนอแบบ "ก๊อดฟาเธอร์"
"นี่คือ ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้"
"ก๊อดฟาเธอร์" นั้นใช้บารมีหรือความเหี้ยมโหดทำให้คนฟังต้องสยบยอม
แต่ข้อเสนอของ "สมชาย" เป็นข้อเสนอที่คนฟังไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
ข้อเสนอของเขามี 3 ข้อครับ
1.ทำงานอะไรก็ได้
2.เงินเดือนเท่าไรก็ได้ และ
3.ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด
"คุณจะรู้สึกอย่างไร ถ้ามีคนเสนอเงื่อนไขแบบนี้" คุณสมชายถามผมบนเวที
...ทำงานอะไรก็ได้ เงินเดือนเท่าไรก็ได้ และทำงานไม่มีวันหยุด
"แบบนี้ต้องมาปล้นแน่ๆ เลย" ผมตอบ
...มุข ครับ มุข
"เถ้าแก่" คนไหนเจอคนมาสมัครงานแล้วเสนอเงื่อนไขแบบนี้ อย่างน้อยเขาก็ต้องรู้สึกว่าไอ้เด็กคนนี้มันต้องขยัน และตั้งใจจริงอย่างแน่นอน
นั่นคือ เหตุผลที่ "เถ้าแก่" ตัดสินใจรับ "สมชาย" เข้าทำงาน
เริ่มต้นงานแรกด้วยการปัดกวาดรถและทำทุกอย่างที่ "เถ้าแก่" ใช้
จนวันหนึ่ง "เถ้าแก่" สั่งให้เขาไปส่งรถให้ลูกค้าที่ยโสธร
ให้เงินไป 30 บาท
2 ชั่วโมงหลังจากนั้นเขากลับมาพร้อมกับตังค์ทอน 13 บาท
ขับรถไปส่ง และนั่งรถโดยสารกลับมา
ไม่อู้ และซื่อสัตย์
เมื่อ โชว์รูมที่ยโสธรมีปัญหา "เถ้าแก่" จึงส่ง "สมชาย" ไปดูแล
3 เดือนแรกเขาขายไม่ได้เลยสักคันเดียว
แต่สิ่งหนึ่งที่ "สมชาย" ค้นพบก็คือ คนที่มีรถเก่า ส่วนใหญ่อยากซื้อรถคันใหม่ แต่จะซื้อได้ก็ต้องขายรถเก่าให้ได้ก่อน
"สมชาย" จึงใช้กลยุทธ์หาพ่อค้ารถมือสองมารับซื้อรถ
พอขายรถเก่าได้ เขาก็จะมาซื้อรถใหม่กับ "สมชาย"
ยอดขายรถโตโยต้าที่ยโสธรพุ่งขึ้นเรื่อยๆ
สิ้นปี "เถ้าแก่" จัดงานปีใหม่ และบอกกับพนักงานทุกคนว่าสาขาอุบลฯ นั้นอยู่รอดได้เพราะสาขายโสธร
"หนู" ช่วย "ราชสีห์"
"สมชาย" ทำงานที่ "โตโยต้าอุบลฯ" 15 ปี
เมื่อ "เถ้าแก่" เสียชีวิต เขาก็ตัดสินใจลาออก
เลิกเป็น "ลูกจ้าง" และเริ่มต้นชีวิต "เถ้าแก่" ตั้งแต่วันนั้น
เชื่อไหมครับว่าวันเปิดโชว์รูม "โตโยต้าดีเยี่ยม" เขาส่งจดหมายไปถึงผู้มีพระคุณ 5 คน
ขอเชิญมาร่วมงาน พร้อมกับ "ของขวัญ" ที่แทน "คำขอบคุณ"
เชิญเลือกรถโตโยต้า 1 คัน
รุ่นไหนก็ได้ เลือกได้เลย
"น้ำใจ" ที่ยิ่งใหญ่ของ "สมชาย" กลับได้รับ "คำตอบ" ที่งดงามยิ่งกว่า
-----
ที่มา : มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 12 ก.พ.53
สัมภาษณ์พิเศษ
กอง บ.ก.เส้นทางเศรษฐี
เซลส์ดีเด่น
เดินหน้าล่าฝัน...อ่านต่อซิ ทวิภาค สมชาย
วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553
การทำงาน Smart not hard
พลิกมุมคิด ชีวิตเปลี่ยน
การทำดีไม่ขึ้น ยิ่งทำกลับเป็นโทษ มีคนไม่น้อยที่บ่นว่าทำงานหนัก ทุ่มเททุกอย่าง ทำจนดึกดื่น แต่กลับไม่ก้าวหน้า เงินก็ขึ้นน้อย ส่วนคนที่ไม่ค่อยทำ มีแต่เลียแข้งเลียขาไปวัน ๆ กลับก้าวหน้ากว่าแล้วบอกว่าเมื่อทำดีไม่ขึ้น เห็นที่ต้องเลียนแบบคนอื่น ๆ บ้าง ทำน้อยลง ทำพอผ่านๆ ไปที ทำให้น้อยที่สุด หรือถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ทำเลย ได้เงินน้อยทำไมต้องทำงานให้มาก เปลืองทั้งสมอง เปลืองทั้งพลังงาน นั่งเฉย ๆ ดีกว่า ฟังดูก็สมเหตุสมผลดี
อันที่จริงการทำดีนั้นต้องทำดีด้วยใจ ไม่ใช่เพราะคนบอกหรือบังคับให้เราทำ ยิ่งทำดีไม่ขึ้นยิ่งต้องทำให้มากขึ้นด้วยซ้ำถึงจะได้ผล ไม่ใช่เลิกทำหรือประชดด้วยการทำไม่ดีเสียเลย หลายท่านอาจจะคิดว่าการประสบความสำเร็จของคนอื่น ๆ มาจากโชคดี โชคช่วย หรือปาฎิหารย์ โดยแท้จริงแล้วภายใต้คำว่าโชคดีนั้นคือ การทำงานหนักอย่างมีเป้าหมาย การตัดสินใจที่ถูกต้องและประสบการณ์มากมายในอดีต ทั้งหมดนี้แหละคือ “โชค” ซึ่งพอจะสรุปเป็นข้อปฏิบัติได้สาม สี่ประการ
ประการแรก จงทำใจให้ชอบและรักงานของคุณ แม้ว่างานดังกล่าวจะดูเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะถ้าหากคุณชอบงาน คุณจะมีความสุขในการทำงาน แล้วเวลาแห่งการทำงานก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ประการที่สอง ไม่ว่างานอะไรก็ตามที่คุณทำอยู่ จงทุ่มเททั้งพลังกาย และพลังสมองให้กับงานนั้น คุณจะต้องรู้หรือรอบรู้ในงานนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ประเภทที่ใคร ๆ ต้องเรียกหาได้ยิ่งดี
ประการที่สาม จงทำงานให้มากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ แม้ว่าจะดูเหมือนทำดีไม่ขึ้น ก็จงทำให้มากยิ่งขึ้น เพราะทุกอย่างที่คุณทำจะตอบแทนคุณในที่สุด ข้อนี้เป็นกฎแห่งการตอนแทน ยิ่งบริษัท หรือหัวหน้าเอาเปรียบคุณมากเท่าไร จงทำงานให้หนักยิ่งขึ้น เพราะว่าเขาจะเป็นหนี้คุณมากยิ่งขึ้น ผลตอบแทนที่ได้ก็คือ ความชำนิชำนาญ และประสบการณ์ต่าง ๆ ในงานของตนเอง ซึ่งจะติดตัวไปในอนาคต จำไว้ว่า ถ้าคุณทำเพื่อเงินเดือนอย่างเดียว คุณก็ได้เงินน้อยกว่าความเป็นจริงเสมอ
ประการสุดท้าย จงใช้เวลาว่างของคุณให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยิ่งเป็นการเรียนรู้อะไรที่ใหม่ ๆ ละก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสผ่านไปเด็ดขาด จงจำให้ขึ้นใจว่า เราเรียนรู้ทุกสิ่งจากการลงมือทำมัน ไม่มีวิธีอื่น ไม่มีทางลัด อย่าเลือกการนั่งเฉย ๆ แทนการหาความรู้เพิ่มเติมเด็ดขาด อะไรที่ท่านรู้ก็คือ ของแถมหรือกำไรที่เพิ่มจากหน้าที่ปัจจุบันของคุณ ลองคิดดูว่าจะมีเวลาอย่างนี้ ให้คุณบ่อยมากแค่ไหน โอกาสเหล่านี้ผ่านแล้วผ่านเลย ดังคำกล่าวที่น่าคิดว่า การฆ่าเวลาก็เหมือนการฆ่าตัวตาย
Management2008′s Weblog
การทำดีไม่ขึ้น ยิ่งทำกลับเป็นโทษ มีคนไม่น้อยที่บ่นว่าทำงานหนัก ทุ่มเททุกอย่าง ทำจนดึกดื่น แต่กลับไม่ก้าวหน้า เงินก็ขึ้นน้อย ส่วนคนที่ไม่ค่อยทำ มีแต่เลียแข้งเลียขาไปวัน ๆ กลับก้าวหน้ากว่าแล้วบอกว่าเมื่อทำดีไม่ขึ้น เห็นที่ต้องเลียนแบบคนอื่น ๆ บ้าง ทำน้อยลง ทำพอผ่านๆ ไปที ทำให้น้อยที่สุด หรือถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่ทำเลย ได้เงินน้อยทำไมต้องทำงานให้มาก เปลืองทั้งสมอง เปลืองทั้งพลังงาน นั่งเฉย ๆ ดีกว่า ฟังดูก็สมเหตุสมผลดี
อันที่จริงการทำดีนั้นต้องทำดีด้วยใจ ไม่ใช่เพราะคนบอกหรือบังคับให้เราทำ ยิ่งทำดีไม่ขึ้นยิ่งต้องทำให้มากขึ้นด้วยซ้ำถึงจะได้ผล ไม่ใช่เลิกทำหรือประชดด้วยการทำไม่ดีเสียเลย หลายท่านอาจจะคิดว่าการประสบความสำเร็จของคนอื่น ๆ มาจากโชคดี โชคช่วย หรือปาฎิหารย์ โดยแท้จริงแล้วภายใต้คำว่าโชคดีนั้นคือ การทำงานหนักอย่างมีเป้าหมาย การตัดสินใจที่ถูกต้องและประสบการณ์มากมายในอดีต ทั้งหมดนี้แหละคือ “โชค” ซึ่งพอจะสรุปเป็นข้อปฏิบัติได้สาม สี่ประการ
ประการแรก จงทำใจให้ชอบและรักงานของคุณ แม้ว่างานดังกล่าวจะดูเล็กน้อยเพียงใดก็ตาม เพราะถ้าหากคุณชอบงาน คุณจะมีความสุขในการทำงาน แล้วเวลาแห่งการทำงานก็จะผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ประการที่สอง ไม่ว่างานอะไรก็ตามที่คุณทำอยู่ จงทุ่มเททั้งพลังกาย และพลังสมองให้กับงานนั้น คุณจะต้องรู้หรือรอบรู้ในงานนั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ประเภทที่ใคร ๆ ต้องเรียกหาได้ยิ่งดี
ประการที่สาม จงทำงานให้มากกว่าเงินเดือนที่ได้รับ แม้ว่าจะดูเหมือนทำดีไม่ขึ้น ก็จงทำให้มากยิ่งขึ้น เพราะทุกอย่างที่คุณทำจะตอบแทนคุณในที่สุด ข้อนี้เป็นกฎแห่งการตอนแทน ยิ่งบริษัท หรือหัวหน้าเอาเปรียบคุณมากเท่าไร จงทำงานให้หนักยิ่งขึ้น เพราะว่าเขาจะเป็นหนี้คุณมากยิ่งขึ้น ผลตอบแทนที่ได้ก็คือ ความชำนิชำนาญ และประสบการณ์ต่าง ๆ ในงานของตนเอง ซึ่งจะติดตัวไปในอนาคต จำไว้ว่า ถ้าคุณทำเพื่อเงินเดือนอย่างเดียว คุณก็ได้เงินน้อยกว่าความเป็นจริงเสมอ
ประการสุดท้าย จงใช้เวลาว่างของคุณให้เป็นประโยชน์มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ยิ่งเป็นการเรียนรู้อะไรที่ใหม่ ๆ ละก็ไม่ควรปล่อยให้โอกาสผ่านไปเด็ดขาด จงจำให้ขึ้นใจว่า เราเรียนรู้ทุกสิ่งจากการลงมือทำมัน ไม่มีวิธีอื่น ไม่มีทางลัด อย่าเลือกการนั่งเฉย ๆ แทนการหาความรู้เพิ่มเติมเด็ดขาด อะไรที่ท่านรู้ก็คือ ของแถมหรือกำไรที่เพิ่มจากหน้าที่ปัจจุบันของคุณ ลองคิดดูว่าจะมีเวลาอย่างนี้ ให้คุณบ่อยมากแค่ไหน โอกาสเหล่านี้ผ่านแล้วผ่านเลย ดังคำกล่าวที่น่าคิดว่า การฆ่าเวลาก็เหมือนการฆ่าตัวตาย
Management2008′s Weblog
ศุภชัย เจียรวนนท์ CEO ของบริษัททรู
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhVugAa_1ADmlekUGOgWMmu3F5NEvoLkp71syWCD3EHcFkMbyoP0ukj2fNt5LD1ZXDtohxvF3rql_ekeBroBOZXRdt0cUoe-2vuIF8aSSlb3rWMEI21ZJ4KBfHKniBSMqTYCVgXNUg38JM/s200/%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%A2.jpg)
พลิกมุมคิด ชีวิตเปลี่ยน
เป็น pocket book ที่เขียนโดยหนุ่มเมืองจันท์ ซึ่งเค้าก็นำแนวความคิดของบุคคลที่ประสบความสำเร็จมาเล่าให้ฟังครับ
แนวความคิดที่ผมประทับใจอันแรก ก็คือ แนวคิดของนาย ศุภชัย เจียรวนนท์ CEO ของบริษัททรูคับ ในตอนปี 2540 ที่มีการประกาศลอยตัวเงินบาท ทำให้บริษัททรู ณ ขณะนั้นเป็นหนี้ทันที 90000 ล้านบาท ตรงนี้ถ้าเป็นคุณ คุณจะมีแนวความคิดอย่างไรครับ
ตรงนี้ก็มีแนวคิดที่สามารถคิดได้สองอย่างคือ
ถ้ามองในแง่ลบก็คือ ไม่มีอะไรเหลือแล้ว หรือว่าหมดตัวแล้วนั่นเอง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ทำให้เราหดหู่ และท้อแท้
***************************************************************************
AutoGenic สัญจร เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น.
สถานที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้ (ใกล้วัดพระสิงห์)
คุณเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ประสบความสำเร์จในชีวิตมั้ย?
คุณจิตนาการภาพความสำเร็จของคุณไม่ออกใช่รึเปล่า?
คุณกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสำเร็จเหมือนคนอื่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มั้ย?
คุณกำลังรู้สึกว่าคุณไม่เก่งเหมือนคนอื่น...
คุณคิดว่าการหาคนที่คิดเหมือนคุณ มีเป้าหมายใหญ่เหมือนคุณมันช่างยากเย็น...
ขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปฃะด้วย Autogenic Training
นี่คือคำตอบ...ของความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
"สุดยอดยอดคอร์สการโปรแกรมจิตแบบที่คนสำเร็จทุกคนรู้ แต่ไม่เคยบอก"
อบรม วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น
รวมค่าอาหาร 2 มื้อ คอฟฟี่เบรก ๅ เบรก
คอร์สมูลค่ามากกว่า 5000 บาท ในราคาพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ในราคาเพียงท่านละ 1000 บาท เท่านั้น
ปล สำหรับเด็กตั้งแต่ 12-15 ปี ราคาพิเศษ 800 บาท/ท่าน
ด่วนจำนวนจำกัดแค่ 100 ท่านแรกเท่านั้น
โทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430 คุณธนพนธ์ 090 798 3374
******************************************************************************************************************************
อีกแนวความคิดหนึ่งของเค้าก็คือ เรื่อง ผู้ชนะ คุณศุภชัยมีแนวคิดว่า ถ้าใครคิดว่าเราชนะแล้ว คนๆนั้นคือ ผู้แพ้ ครับ เพราะว่า เมื่อคิดว่า ชนะเมื่อไหร่ นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของของความพ่ายแพ้ครับ จากตรงนี้ผมก็เห็นด้วยกับแนวความคิดนี้นะครับ เพราะว่าถ้าเราคิดว่าเราชนะแล้ว ความขยันพากเพียรของเรา ก็จะลดน้อยลง แต่ความประมาทของเราก็จะเพิ่มขึ้นครับ
สร้างกำลังใจให้กับตัวเองในภาวะที่เลวร้ายที่สุด "ไมีมีอะไรจะเสีย" คงคล่ายๆกับ เรื่อง "เหลือน้ำตั้งครึ่งถ้วย" หรือ เหลือน้ำแค้ครึ่งถ้วย
ศุภชัย ย้ำหลายครั้งว่า การเปลี่ยนแปลงของ "ทรู" ในวันนี้เกิดขึ้นจาก 2 สิ่งคือ มุมมอง และ ความกล้า
พลิกมุมคิด ชีวิตเปลี่ยน ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ8 "หนุ่มเมืองจันท์"
บัณฑิต ซ้อม ซ้อม และ ซ้อม
ผมรู้จัก "บัณฑิต" ครั้งแรกผ่านหนังโฆษณา "แสงโสม"
จำประโยคนี้ได้ไหมครับ
"ซ้อม...ซ้อม และซ้อม"
รู้จักอีกครั้งก็ผ่านโฆษณาเหมือนกัน
แต่เป็นคำโฆษณาของน้องที่สำนักพิมพ์มติชน เขาบอกว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งของ "บัณฑิต" ต้องเป็นหนึ่งให้ได้
"ดีมากเลยพี่"
ผมฟังแบบยิ้มๆ
"บัณฑิต" เป็นวาทยกรรุ่นใหม่ที่ชนะเลิศในการแข่งขัน Maazel-Valar International Conducting Competition ที่คาร์เนกี้ฮอลล์ เมื่อปี 2545
การถือไม้กำกับวงออเคสตร้าเป็นอาชีพที่แปลกใหม่มากสำหรับคนไทย
แต่เป็นอาชีพที่ "บัณฑิต" คิดฝันไว้ตั้งแต่อายุ 18 ปี
เขาเป็นคนชอบดนตรีคลาสสิคมาก อยากทำงานที่เขารัก
แต่ไม่อยาก "ไส้แห้ง"
คนที่จุดประกายให้เขาก็คือ "สุบิน เมธา" นักวาทยกรระดับโลกชาวอินเดียที่มาเปิดการแสดงที่เมืองไทย
เขาเห็นภาพคนเอเชียที่ยืนผงาดต่อหน้าฝรั่งทั้งวง
เขาประทับใจภาพนี้มาก
ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ว่าอาชีพถือไม้หน้าวงออเคสตร้านี้ไม่ "ไส้แห้ง"
ระดับ "สุบิน เมธา" จะมีรายได้ประมาณ 80,000-100,000 เหรียญสหรัฐต่อคืน
หรือ 3.2-4 ล้านบาท
ผมชอบหนังสือเล่มนี้ตรงที่ยืนอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง
ไม่เล่นกับความฝันที่งดงาม จนไม่ยืนอยู่กับความจริง
"บัณฑิต" รักดนตรีคลาสสิค แต่ก็ไม่อยากกัดก้อนเกลือกิน
ถือเป็นความใฝ่ฝันที่งดงามในรูปแบบใหม่
งดงามแต่ท้องอิ่ม
******************************************************************************
AutoGenic สัญจร เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น.
สถานที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้ (ใกล้วัดพระสิงห์)
คุณเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ประสบความสำเร์จในชีวิตมั้ย?
คุณจิตนาการภาพความสำเร็จของคุณไม่ออกใช่รึเปล่า?
คุณกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสำเร็จเหมือนคนอื่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มั้ย?
คุณกำลังรู้สึกว่าคุณไม่เก่งเหมือนคนอื่น...
คุณคิดว่าการหาคนที่คิดเหมือนคุณ มีเป้าหมายใหญ่เหมือนคุณมันช่างยากเย็น...
ขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปฃะด้วย Autogenic Training
นี่คือคำตอบ...ของความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
"สุดยอดยอดคอร์สการโปรแกรมจิตแบบที่คนสำเร็จทุกคนรู้ แต่ไม่เคยบอก"
อบรม วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น
รวมค่าอาหาร 2 มื้อ คอฟฟี่เบรก ๅ เบรก
คอร์สมูลค่ามากกว่า 5000 บาท ในราคาพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ในราคาเพียงท่านละ 1000 บาท เท่านั้น
ปล สำหรับเด็กตั้งแต่ 12-15 ปี ราคาพิเศษ 800 บาท/ท่าน
ด่วนจำนวนจำกัดแค่ 100 ท่านแรกเท่านั้น
โทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430 คุณธนพนธ์ 090 798 3374
********************************************************************************************************************************
"บัณฑิต" เชื่อมั่นใจเรื่องจินตนาการ ความเชื่อมั่น และจิตใต้สำนึก
วันที่เขาเห็น "สุบิน เมธา" "บัณฑิต" รู้แล้วว่าเส้นทางชีวิตของเขาจะเดินไปในทางใด
"ผมบอกได้เลยว่าชีวิตที่เดินอย่างเชื่อมั่น และมีเป้าหมายนั้น เป็นชีวิตที่ "มันส์" มาก"
ความเชื่อของเขาก็คือ "มนุษย์จะพัฒนาไปตามอย่างที่ตนคิด"
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นที่ "การคิด"
"บัณฑิต" ยกตัวอย่างการวิ่ง 1 ไมล์
สมัยก่อนไม่มีมนุษย์คนใดวิ่ง 1 ไมล์ได้ต่ำกว่า 4 นาที
และแล้ววันที่ 6 พฤษภาคม 2507 "โรเจอร์ แบนนิสเตอร์" นักวิ่งชาวอังกฤษก็สามารถวิ่ง 1 ไมล์ได้ในเวลาเพียง 3 นาที 59 วินาที
นิตยสารฟอร์บส์ ประกาศเลยว่านี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์กีฬาโลก
แต่เชื่อไหมครับจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ก็มีคนทำสถิติแบบเดียวกับ "แบนนิสเตอร์" ได้
ถามว่าทำไมที่ผ่านมาถึงไม่มีคนทำได้
คำตอบก็คือเพราะ "ความคิด" ของคนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
จากเดิมที่เคยเชื่อว่าด้วยข้อจำกัดทางร่างกายของมนุษย์ "เราทำไม่ได้"
เปลี่ยนมาเป็น "เราทำได้"
เพราะมีคนเคยทำได้แล้ว เราจึงเชื่อว่าเราทำได้
ความเชื่อที่เปลี่ยน ความคิดที่เปลี่ยน
ทำให้ร่างกายที่เคยมีข้อจำกัด กลับกลายเป็น "ไม่มีข้อจำกัด"
"บัณฑิต" ยกตัวอย่างนักเปียโนจีนคนหนึ่งที่ติดคุกสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม
ไม่มีเปียโนให้ฝึก
เขากลัวฝีมือตกจึงฝึกซ้อมในคุกโดยใช้การวาดรูปคีย์บอร์ดบนไม้กระดาน
เชื่อไหมครับว่าหลังออกจากคุก
ฝีมือของนักเปียโนคนนี้ไม่ตกลงเลย
"บัณฑิต" ใช้วิธีการนี้ในการฝึกฝนการควบคุมวง
เพราะการเป็น "คอนดักเตอร์" นั้น การฝึกคุมวงด้วยไม้บาตองนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
ต้องเรียนโดยมีวงจริงมาให้ฝึกฝน
แต่ค่าจ้างวงแพงมาก ทางมหาวิทยาลัยจึงจ้างมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์
"บัณฑิต" บอกว่ามีวิธีการเดียวที่เขาจะเก่งกว่าเพื่อน ก็คือ ต้อง "ฝึกซ้อมในใจ"
เวลาว่างระหว่างรอรถ เข้าแถว เขาก็จะฝึกในใจ
จินตนาการว่ามีวงอยู่ข้างหน้า
จากนั้นก็เริ่มฝึกตามที่อยากจะฝึก
ใช้ "จินตนาการ" ในการฝึกซ้อม
อีกเรื่องหนึ่งเป็นมุมคิดที่น่าสนใจ คือ "โลกนี้ไม่เคยต้องยุติธรรม"
"บัณฑิต" ไม่เคยคาดหวังหรือบ่นว่าทำไมโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรม
ไม่ต้องตั้งคำถามว่าทำไมคนนี้หล่อ คนนี้สวย
ทำไมคนนี้มีพรสวรรค์จังเลย ฯลฯ
"ทำใจไว้เลยครับ โลกนี้ไม่เคยต้องยุติธรรม อย่าไปเสียเวลาคิดเลยว่าทำไม"
เขายกคำของนักปราชญ์อเมริกันคนหนึ่งว่า "การตอบรับกับสถานการณ์ที่เรามีหรือเป็นอยู่สำคัญกว่าสถานการณ์ที่ชีวิตให้มา"
ครับ ทิศทางของชีวิตเราอยู่ในความควบคุมของเราเอง
อย่าโยนความรับผิดชอบให้ใคร
เลือกเอง ลงมือเอง รับผิดชอบเอง
สำหรับคนที่มีความใฝ่ฝัน และต้องการแรงบันดาลใจ
ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ครับ
บทความจาก....ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ......."หนุ่มเมืองจันท์" มติชนสุดสัปดาห์
จำประโยคนี้ได้ไหมครับ
"ซ้อม...ซ้อม และซ้อม"
รู้จักอีกครั้งก็ผ่านโฆษณาเหมือนกัน
แต่เป็นคำโฆษณาของน้องที่สำนักพิมพ์มติชน เขาบอกว่ามีหนังสือเล่มหนึ่งของ "บัณฑิต" ต้องเป็นหนึ่งให้ได้
"ดีมากเลยพี่"
ผมฟังแบบยิ้มๆ
"บัณฑิต" เป็นวาทยกรรุ่นใหม่ที่ชนะเลิศในการแข่งขัน Maazel-Valar International Conducting Competition ที่คาร์เนกี้ฮอลล์ เมื่อปี 2545
การถือไม้กำกับวงออเคสตร้าเป็นอาชีพที่แปลกใหม่มากสำหรับคนไทย
แต่เป็นอาชีพที่ "บัณฑิต" คิดฝันไว้ตั้งแต่อายุ 18 ปี
เขาเป็นคนชอบดนตรีคลาสสิคมาก อยากทำงานที่เขารัก
แต่ไม่อยาก "ไส้แห้ง"
คนที่จุดประกายให้เขาก็คือ "สุบิน เมธา" นักวาทยกรระดับโลกชาวอินเดียที่มาเปิดการแสดงที่เมืองไทย
เขาเห็นภาพคนเอเชียที่ยืนผงาดต่อหน้าฝรั่งทั้งวง
เขาประทับใจภาพนี้มาก
ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ว่าอาชีพถือไม้หน้าวงออเคสตร้านี้ไม่ "ไส้แห้ง"
ระดับ "สุบิน เมธา" จะมีรายได้ประมาณ 80,000-100,000 เหรียญสหรัฐต่อคืน
หรือ 3.2-4 ล้านบาท
ผมชอบหนังสือเล่มนี้ตรงที่ยืนอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริง
ไม่เล่นกับความฝันที่งดงาม จนไม่ยืนอยู่กับความจริง
"บัณฑิต" รักดนตรีคลาสสิค แต่ก็ไม่อยากกัดก้อนเกลือกิน
ถือเป็นความใฝ่ฝันที่งดงามในรูปแบบใหม่
งดงามแต่ท้องอิ่ม
******************************************************************************
AutoGenic สัญจร เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น.
สถานที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้ (ใกล้วัดพระสิงห์)
คุณเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ประสบความสำเร์จในชีวิตมั้ย?
คุณจิตนาการภาพความสำเร็จของคุณไม่ออกใช่รึเปล่า?
คุณกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสำเร็จเหมือนคนอื่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มั้ย?
คุณกำลังรู้สึกว่าคุณไม่เก่งเหมือนคนอื่น...
คุณคิดว่าการหาคนที่คิดเหมือนคุณ มีเป้าหมายใหญ่เหมือนคุณมันช่างยากเย็น...
ขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปฃะด้วย Autogenic Training
นี่คือคำตอบ...ของความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
"สุดยอดยอดคอร์สการโปรแกรมจิตแบบที่คนสำเร็จทุกคนรู้ แต่ไม่เคยบอก"
อบรม วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น
รวมค่าอาหาร 2 มื้อ คอฟฟี่เบรก ๅ เบรก
คอร์สมูลค่ามากกว่า 5000 บาท ในราคาพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ในราคาเพียงท่านละ 1000 บาท เท่านั้น
ปล สำหรับเด็กตั้งแต่ 12-15 ปี ราคาพิเศษ 800 บาท/ท่าน
ด่วนจำนวนจำกัดแค่ 100 ท่านแรกเท่านั้น
โทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430 คุณธนพนธ์ 090 798 3374
********************************************************************************************************************************
"บัณฑิต" เชื่อมั่นใจเรื่องจินตนาการ ความเชื่อมั่น และจิตใต้สำนึก
วันที่เขาเห็น "สุบิน เมธา" "บัณฑิต" รู้แล้วว่าเส้นทางชีวิตของเขาจะเดินไปในทางใด
"ผมบอกได้เลยว่าชีวิตที่เดินอย่างเชื่อมั่น และมีเป้าหมายนั้น เป็นชีวิตที่ "มันส์" มาก"
ความเชื่อของเขาก็คือ "มนุษย์จะพัฒนาไปตามอย่างที่ตนคิด"
ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นที่ "การคิด"
"บัณฑิต" ยกตัวอย่างการวิ่ง 1 ไมล์
สมัยก่อนไม่มีมนุษย์คนใดวิ่ง 1 ไมล์ได้ต่ำกว่า 4 นาที
และแล้ววันที่ 6 พฤษภาคม 2507 "โรเจอร์ แบนนิสเตอร์" นักวิ่งชาวอังกฤษก็สามารถวิ่ง 1 ไมล์ได้ในเวลาเพียง 3 นาที 59 วินาที
นิตยสารฟอร์บส์ ประกาศเลยว่านี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์กีฬาโลก
แต่เชื่อไหมครับจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ก็มีคนทำสถิติแบบเดียวกับ "แบนนิสเตอร์" ได้
ถามว่าทำไมที่ผ่านมาถึงไม่มีคนทำได้
คำตอบก็คือเพราะ "ความคิด" ของคนเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
จากเดิมที่เคยเชื่อว่าด้วยข้อจำกัดทางร่างกายของมนุษย์ "เราทำไม่ได้"
เปลี่ยนมาเป็น "เราทำได้"
เพราะมีคนเคยทำได้แล้ว เราจึงเชื่อว่าเราทำได้
ความเชื่อที่เปลี่ยน ความคิดที่เปลี่ยน
ทำให้ร่างกายที่เคยมีข้อจำกัด กลับกลายเป็น "ไม่มีข้อจำกัด"
"บัณฑิต" ยกตัวอย่างนักเปียโนจีนคนหนึ่งที่ติดคุกสมัยปฏิวัติวัฒนธรรม
ไม่มีเปียโนให้ฝึก
เขากลัวฝีมือตกจึงฝึกซ้อมในคุกโดยใช้การวาดรูปคีย์บอร์ดบนไม้กระดาน
เชื่อไหมครับว่าหลังออกจากคุก
ฝีมือของนักเปียโนคนนี้ไม่ตกลงเลย
"บัณฑิต" ใช้วิธีการนี้ในการฝึกฝนการควบคุมวง
เพราะการเป็น "คอนดักเตอร์" นั้น การฝึกคุมวงด้วยไม้บาตองนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
ต้องเรียนโดยมีวงจริงมาให้ฝึกฝน
แต่ค่าจ้างวงแพงมาก ทางมหาวิทยาลัยจึงจ้างมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์
"บัณฑิต" บอกว่ามีวิธีการเดียวที่เขาจะเก่งกว่าเพื่อน ก็คือ ต้อง "ฝึกซ้อมในใจ"
เวลาว่างระหว่างรอรถ เข้าแถว เขาก็จะฝึกในใจ
จินตนาการว่ามีวงอยู่ข้างหน้า
จากนั้นก็เริ่มฝึกตามที่อยากจะฝึก
ใช้ "จินตนาการ" ในการฝึกซ้อม
อีกเรื่องหนึ่งเป็นมุมคิดที่น่าสนใจ คือ "โลกนี้ไม่เคยต้องยุติธรรม"
"บัณฑิต" ไม่เคยคาดหวังหรือบ่นว่าทำไมโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรม
ไม่ต้องตั้งคำถามว่าทำไมคนนี้หล่อ คนนี้สวย
ทำไมคนนี้มีพรสวรรค์จังเลย ฯลฯ
"ทำใจไว้เลยครับ โลกนี้ไม่เคยต้องยุติธรรม อย่าไปเสียเวลาคิดเลยว่าทำไม"
เขายกคำของนักปราชญ์อเมริกันคนหนึ่งว่า "การตอบรับกับสถานการณ์ที่เรามีหรือเป็นอยู่สำคัญกว่าสถานการณ์ที่ชีวิตให้มา"
ครับ ทิศทางของชีวิตเราอยู่ในความควบคุมของเราเอง
อย่าโยนความรับผิดชอบให้ใคร
เลือกเอง ลงมือเอง รับผิดชอบเอง
สำหรับคนที่มีความใฝ่ฝัน และต้องการแรงบันดาลใจ
ต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ครับ
บทความจาก....ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ......."หนุ่มเมืองจันท์" มติชนสุดสัปดาห์
วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553
หาเงินออนไลน์ คนไทยก็ทำได้
สร้างรายได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ด้วยการเป็นตัวแทนขายหนังสือและ CD กับ complexplaza
Affiliate Programs, สุดยอดวิธีหาเงินผ่านอินเตอร์เน็ต Affiliate Programs, ขายหนังสือและ CD
เป็นอีกหนึ่งความน่าเชื่อถือของเมืองไทยหลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า complexplaza กันมาแล้ว แต่ที่น่าดีใจคือ เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ complexplaza ในการโกยเงินเข้ากระเป๋า ด้วยการเป็นตัวแทนขายหนังสือ และ cd ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เมื่อขายได้เราก็ได้รับเงินปันผลตามระเบียบครับ ที่สุดยอดไปกว่านั้นคือ ทาง complexplaza ยังใจดีเหลือหลาย โดย..ให้เราสามารถสร้างองค์กรเครือข่ายของเราด้วยวิธีให้เราหาคนมาสมัครสมาชิกต่อจากเรา แล้วเราก็จะได้รับส่วนแบ่งอีกทางหนึ่งเมื่อคนในองค์กรหรือเครือข่ายของเราขายได้นั่นเอง
การทำงาน
1.ไม่ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็ทำได้ เพราะ complexplaza สร้างลิงค์เว็บไซต์ไว้ให้เราพร้อมเลยสามารถนำลิงค์ที่ได้มาไป Post ตามเว็บบอร์ด ได้ทันที
2.ถ้าท่านมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ก็ยิ่งดีครับเพราะทาง complexplaza จะมี Banner แบบต่างๆให้เรานำไปติดในเว็บเราได้ครับ หรือเราจะทำลิงค์กับเว็บไซต์เรก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
3.ง่ายสุดๆ ก็เอาลิิงค์ที่ complexplaza ให้มาส่งอเมล์ไปให้เพื่อนๆเราที่รู้จักกันได้เลย แล้วบอกเขาหน่อยว่าทีหน้่าทีหลัถ้าจะซื้อหนังสือซื้อตางลิงค์ที่สงไปให้ดีกว่าื เพราะราคามันถู๊กๆถูกจริงๆ
การรับเงิน
1.โอนเข้าบัญชีธนาคารของเราเลยครับ
ไม่อยากอ่นต่อ ก็สมัครเลยครับ ก่อนที่เขาจะปิดรับสมัคร(เคยเจอบางแห่งครับเปิดรับจำนวนจำกัด)
คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย Online ได้เลยครับ
คำแนะนำ(คัดลอกมาจาก คอมแพล็กพลาซ่า)
คำแนะนำ:
ผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาสินค้า มาจากเว็บไซต์ของคุณ จะถือว่าเป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมาทันที
ระบบจะมีการจดจำลูกค้าที่คุณแนะนำมาเป็นเวลา 365 วัน โดยใช้ระบบ Cookie นั่นหมายความว่า ภายใน 365 วัน หากลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ มีการซื้อสินค้าวันไหนก็ตาม และจะสั่งซื้อกี่ครั้งก็ตาม ระบบจะรู้ทันทีว่า ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมา และคุณก็จะได้รับค่าตอบแทนในทุกๆ ครั้ง ตลอดทั้ง 365 วัน ทันที ถึงแม้ว่าลูกค้าผู้นั้นจะได้ปิด Browser หรือปิดเครื่องไปแล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่า รายการสั่งซื้อนี้ เป็นรายการสั่งซื้อจากลูกค้าของคุณ และหากใน 365 วันนี้ ลูกค้ามีการคลิ๊กป้ายโฆษณาจากเว็บไซต์คุณเข้ามาใหม่ ระบบก็จะเริ่มย้อนกลับไปนับเป็นวันที่ 1 ใหม่ และเริ่มนับไปจนครบ 365 วันใหม่อีกครั้ง
ในระยะเวลา 365 วัน นอกจากคุณจะมีโอกาสได้ Comission จากผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาของคุณแล้ว หากผู้นั้นมีการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ คุณก็จะได้สิทธิเป็นผู้แนะนำ และผู้นั้นจะกลายเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ภายใต้การแนะนำของคุณทันที ทำให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2 ต่อทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
หาก กรณีลูกค้าของคุณสอบถามความคืบหน้าของการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ของคุณ หรือลูกค้าต้องการเลขที่สิ่งของในการจัดส่งสินค้าเพื่อนำไปใช้ในการตรวจสอบOnlineกับทางไปรษณีย์สามารถแจ้งให้ลูกค้านั้นตรวจสอบได้ที่ http://www.complexplaza.com/status ได้ทันที
ตัวอย่าง Link โฆษณาสำหรับผู้ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
Link โฆษณาสำหรับผู้ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
Link โฆษณาเข้าสู่หน้าแรก ComplexPlaza
สำหรับผู้ ไม่มี เว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ต้องการนำไปลงโฆษณาตามเว็บ Classified ต่างๆ
การทำงาน: บันทึกว่าเป็นลูกค้าของคุณ และบันทึกว่าตัวแทนจำหน่ายย่อยของคุณ จากนั้น เข้าสู่หน้าแรกของ ComplexPlaza.com
Link โฆษณาไปหน้ารวมสินค้าทุกหมวด
สำหรับผู้ ไม่มี เว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ต้องการนำไปลงโฆษณาตามเว็บ Classified ต่างๆ
การทำงาน: บันทึกว่าเป็นลูกค้า และบันทึกว่าตัวแทนจำหน่ายย่อยของคุณ จากนั้น เข้าสู่หน้าสินค้าทุกหมวด
http://www.plazacomplex.com/
Link โฆษณาไปหน้าสินค้าที่ต้องการ
สำหรับผู้ ไม่มี เว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ต้องการนำไปลงโฆษณาตามเว็บ Classified ต่างๆ
การทำงาน: บันทึกว่าเป็นลูกค้าของคุณ และบันทึกว่าตัวแทนจำหน่ายย่อยของคุณ จากนั้น เข้าสู่หน้าสินค้าที่ต้องการ
(ลิงค์แบบ โฆษณาไปหน้าสินค้าที่ต้องการ จะมีชื่อให้เราเลือกหมวดของสินค้าได้ครับ)
สิทธิประโยชน์ของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์
การสมัคร ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และสามารถใช้งานเริ่มต้นหารายได้ทันทีหลังจากสมัครเสร็จ
การหารายได้มี 2 ระบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกระบบใดระบบหนึ่ง หรือจะใช้ทั้ง 2 ระบบควบคู่กันไปก็ได้ในการสมัครเพียงครั้งเดียว
ระบบที่ 1
หารายได้จากการติดป้ายโฆษณา
จุดเด่น
สะดวก ง่าย เพียงแค่ติดป้ายโฆษณา หรือโปรโมท Link ให้ลูกค้าคลิกเข้ามาสั่งซื้อสินค้า คุณก็จะได้รับรับค่าตอบแทนทันที โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ไม่ต้องรับภาระเรื่องการจัดส่ง, รับชำระเงิน หรือตาม Order สินค้าจากลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอด
ผู้มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง, หรือผู้ใช้บริการบริการฟรีเว็บไซต์ รวมไปถึงผู้ใช้เว็บไซต์ สำเร็จรูปต่างๆ ใน Internet หรือ แม้แต่ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่มีลู่ทางนำเสนอสินค้า เพื่อจำหน่ายใน Internet ได้ เช่น ฝากโฆษณษตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือนำ Link ของสินค้าไป Post โฆษณาตามเว็บ Classified ทั่วไป ที่เปิดโอกาสให้ Post โฆษณาขายสินค้า… คุณสามารถสมัครเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพื่อนำสินค้าที่เราจัดเตรียมเอาไว้ ไปวางจำหน่ายในเว็บไซต์ของคุณได้ทันที โดยเพียงแต่คุณนำ HTML Code, Link ที่คุณจะได้รับจากเรา ไปใส่เอาไว้ในเว็บไซต์ของคุณ ระบบจะนำป้ายโฆษณา และสินค้ากว่า 404 รายการ ไปผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแสดงบนเว็บไซต์คุณโดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ระบบที่ 2
หารายได้โดยการนำสินค้าไปขายตรงด้วยตนเอง
จุดเด่น
สามารถกำหนดราคาสินค้าเพื่อเพิ่มกำไรได้ด้วยตนเอง
คุณสามารถรับชำระเงินโดยตรงจากลูกค้า ด้วยระบบของคุณเองได้ทันที
สามารจบการขายที่เว็บไซต์ของคุณได้ทันที โดยไม่ต้องส่งลูกค้ามาซื้อของกับทางเรา
ไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอาไว้ และไม่ต้องรับภาระเรื่องการจัดส่ง และติดตาม Order จากลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอด
มีระบบตรวจสอบความคืบหน้าในการสั่งซื้อสินค้า ให้กับลูกค้าของคุณ เพื่อใช้เข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการสั่งซื้อ พร้อมตรวจสอบเลขที่สิ่งของในการจัดส่งสินค้า ได้ด้วยตนเองแบบ Real Time
ได้รับผลตอบแทนมากถึง 3 ต่อ คือ
ผลตอบแทนจากการกำหนดราคา
ผลแทนแทนปกติของตัวแทนจำหน่าย 10%-20%
ผลตอบแทนจากการขายสินค้าที่ใกล้เคียงกัน
การหารายได้โดยการกำหนดราคาสินค้าเพื่อขายตรงเองนี้ เราจะเรียกว่า “ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง“
นอกจากรายได้ของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ จะได้รับจากการติดป้ายโฆษณาในเว็บไซต์ของคุณแล้ว คุณยังสามารถใช้ “ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง” ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยท่านสมาชิกตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพิ่มยอดขาย ที่ขณะนี้ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเอง แต่เพียงแค่คุณหาลูกค้าด้วยวิธีการใดๆ ก็ได้ตามวิธีของคุณ จากนั้นเมื่อลูกค้ามีความประสงค์จะซื้อสินค้า คุณก็รับชำระเงินจากลูกค้าให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยมาทำการสั่งซื้อสินค้าให้ลูกค้าของคุณเอง แถมเรายังมีระบบตรวจสถานะความคืบหน้าของ Order นั้นๆ ให้กับลูกค้าของคุณเข้ามาตรวจสอบได้ด้วยตนเองแบบ Real Time อีกด้วย โดยที่คุณไม่ต้องเป็นผู้รับภาระ ในการจัดส่ง และติดตาม Order สินค้าจากลูกค้าแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอด
เมื่อคุณเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์กับแราแล้ว คุณสามารถชวนเพื่อนที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองมาสมัครเป็น “ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย)” ภายใต้การแนะนำ ของคุณได้ ประโยชน์ก็คือ คุณจะได้รับ “ค่าตอบแทนเสริม“ ทันที เมื่อตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ของคุณนี้ ขายสินค้าได้ในทุกๆ Order ตลอดไป
นอกจากนั้นคุณสามารถที่จะ ชวนคนมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ของคุณกี่รายก็ได้ไม่จำกัด เพื่อเป็นโอกาส ในการสร้างค่าตอบแทนเสริมของคุณให้มีมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นค่าตอบแทนที่คุณจะได้รับจะมีมากถึง 2 ต่อ คือ
ต่อที่ 1 ได้ค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณ 10% – 20%
สำหรับค่าตอบแทนต่อที่ 1 ซึ่งเป็นค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณนั้นระบบจะคำนวนให้มากถึง 10% – 20% โดยจะใช้อัตราค่าตอบแทนดังนี้
อัตราค่าตอบแทน เงื่อนไข
10% ในระยะแรกตัวแทนจำหน่ายทุกคน จะได้รับค่าตอบแทนในอัตรานี้
14% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 1 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 14%
16% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 2 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 16%
18% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 3 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 18%
20% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 4 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 20%
ทุกอัตราค่าตอบแทน ยังไม่รวมค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ที่คุณจะได้รับอีก 3%
ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างดีด้วยระบบหารายได้โดยการนำสินค้าไปขายตรงด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า “ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง“
เนื่อง จากสินค้าที่จำหน่ายในเว็บไซต์นั้นโดยปกติจะมีส่วนลดเฉลี่ย 15% จากราคาปกต่อสินค้า 1 ชิ้น นั่นหมายความว่า หากพูดกันในแง่ของธุรกิจการขายของแล้ว การเป็นตัวแทนจำหน่ายฯ กับเรา ถือว่าคุณได้ส่วนลดในการขายสินค้ามากถึง 25% – 35% (เมื่อนำส่วนลดจากราคาปก 15% มาคำนวนด้วย) โดยที่ไม่ต้องลงทุนใดๆ โดยเฉพาะท่านที่เลือกใช้ระบบที่ 2 ในการจำหน่ายสินค้าจะเข้าใจดี (ตารางแสดงอัตราค่าตอบหลักแทนที่คุณจะได้รับ)
หมายเหตุ:
การปรับระดับ % ขึ้นนั้น ระบบจะดูจากภาพรวมของการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งจะอนุโลมให้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการสั่งซื้อทุกวัน แต่ขอให้เฉลี่ยแล้วมีการขายสินค้าตามจำนวนที่ระบุไว้
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้ปรับค่าตอบแทนขึ้นแล้ว หากมียอดขายลดลง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาปรับลดอัตราค่าแทนแทนลงมา ตามความเหมาะสม
ต่อที่ 2 และได้ค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) อีก 3% โดยที่สามารถมีเพิ่มมากขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด
โปรดสังเกต ค่าตอบแทนจะคำนวนจาก ยอดขายสินค้า ในทุกระดับ และมีอัตราที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่จำกัด
หาก คุณเป็นเจ้าของหลายเว็ปไซต์ คุณสามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพียง Account เดียว และใช้งานร่วมกันหลายๆ เว็บไซต์ได้ทันที เพื่อที่จะได้ร่วมกันสะสมค่าตอบแทนได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ใหม่
ผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาสินค้า มาจากเว็บไซต์ของคุณ จะถือว่าเป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมาทันที
ระบบจะมีการจดจำลูกค้าที่คุณแนะนำมาเป็นเวลา 365 วัน โดยใช้ระบบ Cookie นั่นหมายความว่า ภายใน 365 วัน หากลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ มีการซื้อสินค้าวันไหนก็ตาม และจะสั่งซื้อกี่ครั้งก็ตาม ระบบจะรู้ทันทีว่า ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมา และคุณก็จะได้รับค่าตอบแทนในทุกๆ ครั้ง ตลอดทั้ง 365 วัน ทันที ถึงแม้ว่าลูกค้าผู้นั้นจะได้ปิด Browser หรือปิดเครื่องไปแล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่า รายการสั่งซื้อนี้ เป็นรายการสั่งซื้อจากลูกค้าของคุณ และหากใน 365 วันนี้ ลูกค้ามีการคลิ๊กป้ายโฆษณาจากเว็บไซต์คุณเข้ามาใหม่ ระบบก็จะเริ่มย้อนกลับไปนับเป็นวันที่ 1 ใหม่ และเริ่มนับไปจนครบ 365 วันใหม่อีกครั้ง
ในระยะเวลา 365 วัน นอกจากคุณจะมีโอกาสได้ Comission จากผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาของคุณแล้ว หากผู้นั้นมีการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ คุณก็จะได้สิทธิเป็นผู้แนะนำ และผู้นั้นจะกลายเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ภายใต้การแนะนำของคุณทันที ทำให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็น 2 ชั้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ระบบยังมีส่วนที่ใช้แสดงสถานะผู้แนะนำ (Affiliate) อยู่ที่บริเวณด้านล่างของเว็บไซต์ ComplexPlaza.com ซึ่งจะคอยแสดงรหัสตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ของคุณ ในเครื่องของลูกค้าอยู่ตลอด 365 วัน ในระหว่างที่ลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์
คุณสามารถตรวจสอบสถานะของใบสั่งซื้อแต่ละใบได้ว่าขณะนี้อยู่ในสถานะใด เช่น ตรวจสอบว่า ใบสั่งซื้อนี้ส่งสินค้าหรือยัง ฯลฯ โดยจะเป็นฐานข้อมูลเดียวกับ ที่เจ้าของร้านใช้ในการตรวจสอบการสั่งซื้อแบบ Online
เมื่อมีการขายสินค้าได้ผ่านเว็บไซต์ของคุณ จะมี Email แจ้งไปให้คุณทราบโดยอัตโนมัติทันที
ผู้ที่มียอดค่าตอบแทนมากกว่า ฿1,000.00 ระบบจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้คุณโดยอัตโนมัติ ในวันที่ 15 ของทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากยังไม่ถึง ก็จะสะสมยอดต่อไปเรื่อยๆ โดยจะทำการโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่คุณกำหนดทันที
ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ ขณะนี้มีผู้ใช้หลายท่านสมัครแล้ว แต่แจ้งเข้ามาว่า Login เข้าระบบไม่ได้? … เนื่องจากว่าการ Login เข้าสู่ระบบของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์นั้น จะต้องใช้แบบฟอร์มหน้า Login ของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์เท่านั้น โดยคลิ๊กที่ Tab ชื่อ ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ และคลิ๊กที่ เข้าสู่ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพราะว่าแบบฟอร์ม Login ในส่วนอื่นๆ นั้น จะเป็นแบบฟอร์ม Login ของลูกค้าที่มาซื้อสินค้ากับทางเว็บไซต์ของเรา
ข้อห้าม
ห้ามโฆษณาโดยการ SPAM Email มิเช่นนั้นจะถูกแบนทันทีและ ทางเราจะไม่รับผิดชอบใส่ความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อมีการแบน ส่วนการประชาสัมพันธ์ในลักษณะส่ง Maillist ให้สมาชิกของเว็บไซต์ของคุณสามารถกระทำได้
ในการนำสินค้าไปลงประกาศขาย หรือนำไปลงโฆษณาตามเว็บไซต์ Classified ที่เปิดโอกาสให้ลงโฆษณาสินค้า ห้ามใช้ Email ของทาง ComplexPlaza ในการสมัครสมาชิก เนื่องจากหากคุณใช้ Email ของทาง ComplexPlaza ในการสมัครสมาชิก ทุกครั้งที่คุณมีการลงโฆษณากับเว็บไซต์เหล่านั้น จะมี Email รายงานการลงโฆษณาส่งมายังเรา
ขอ สงวนสิทธิ์ในการลบผู้ใช้ที่ไม่จริงใจ สมัครแล้วแต่ไม่นำป้ายโฆษณาไปติดในเว็บไซต์ของตนเอง หรือสมัครแล้วเพิกเฉยไม่มีกาสนใจทำการขาย และจะไม่รับสมัครเข้ามาอีก และขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเข้าใจหมดแล้ว ก็สมัครเลยครับ ก่อนที่เขาจะปิดรับสมัคร(เคยเจอบางแห่งครับเปิดรับจำนวนจำกัด)
คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย Online ได้เลยครับ
Affiliate Programs, สุดยอดวิธีหาเงินผ่านอินเตอร์เน็ต Affiliate Programs, ขายหนังสือและ CD
เป็นอีกหนึ่งความน่าเชื่อถือของเมืองไทยหลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า complexplaza กันมาแล้ว แต่ที่น่าดีใจคือ เราสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ complexplaza ในการโกยเงินเข้ากระเป๋า ด้วยการเป็นตัวแทนขายหนังสือ และ cd ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต เมื่อขายได้เราก็ได้รับเงินปันผลตามระเบียบครับ ที่สุดยอดไปกว่านั้นคือ ทาง complexplaza ยังใจดีเหลือหลาย โดย..ให้เราสามารถสร้างองค์กรเครือข่ายของเราด้วยวิธีให้เราหาคนมาสมัครสมาชิกต่อจากเรา แล้วเราก็จะได้รับส่วนแบ่งอีกทางหนึ่งเมื่อคนในองค์กรหรือเครือข่ายของเราขายได้นั่นเอง
การทำงาน
1.ไม่ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็ทำได้ เพราะ complexplaza สร้างลิงค์เว็บไซต์ไว้ให้เราพร้อมเลยสามารถนำลิงค์ที่ได้มาไป Post ตามเว็บบอร์ด ได้ทันที
2.ถ้าท่านมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ก็ยิ่งดีครับเพราะทาง complexplaza จะมี Banner แบบต่างๆให้เรานำไปติดในเว็บเราได้ครับ หรือเราจะทำลิงค์กับเว็บไซต์เรก็ไม่ผิดแต่อย่างใด
3.ง่ายสุดๆ ก็เอาลิิงค์ที่ complexplaza ให้มาส่งอเมล์ไปให้เพื่อนๆเราที่รู้จักกันได้เลย แล้วบอกเขาหน่อยว่าทีหน้่าทีหลัถ้าจะซื้อหนังสือซื้อตางลิงค์ที่สงไปให้ดีกว่าื เพราะราคามันถู๊กๆถูกจริงๆ
การรับเงิน
1.โอนเข้าบัญชีธนาคารของเราเลยครับ
ไม่อยากอ่นต่อ ก็สมัครเลยครับ ก่อนที่เขาจะปิดรับสมัคร(เคยเจอบางแห่งครับเปิดรับจำนวนจำกัด)
คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย Online ได้เลยครับ
คำแนะนำ(คัดลอกมาจาก คอมแพล็กพลาซ่า)
คำแนะนำ:
ผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาสินค้า มาจากเว็บไซต์ของคุณ จะถือว่าเป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมาทันที
ระบบจะมีการจดจำลูกค้าที่คุณแนะนำมาเป็นเวลา 365 วัน โดยใช้ระบบ Cookie นั่นหมายความว่า ภายใน 365 วัน หากลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ มีการซื้อสินค้าวันไหนก็ตาม และจะสั่งซื้อกี่ครั้งก็ตาม ระบบจะรู้ทันทีว่า ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมา และคุณก็จะได้รับค่าตอบแทนในทุกๆ ครั้ง ตลอดทั้ง 365 วัน ทันที ถึงแม้ว่าลูกค้าผู้นั้นจะได้ปิด Browser หรือปิดเครื่องไปแล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่า รายการสั่งซื้อนี้ เป็นรายการสั่งซื้อจากลูกค้าของคุณ และหากใน 365 วันนี้ ลูกค้ามีการคลิ๊กป้ายโฆษณาจากเว็บไซต์คุณเข้ามาใหม่ ระบบก็จะเริ่มย้อนกลับไปนับเป็นวันที่ 1 ใหม่ และเริ่มนับไปจนครบ 365 วันใหม่อีกครั้ง
ในระยะเวลา 365 วัน นอกจากคุณจะมีโอกาสได้ Comission จากผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาของคุณแล้ว หากผู้นั้นมีการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ คุณก็จะได้สิทธิเป็นผู้แนะนำ และผู้นั้นจะกลายเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ภายใต้การแนะนำของคุณทันที ทำให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2 ต่อทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
หาก กรณีลูกค้าของคุณสอบถามความคืบหน้าของการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ของคุณ หรือลูกค้าต้องการเลขที่สิ่งของในการจัดส่งสินค้าเพื่อนำไปใช้ในการตรวจสอบOnlineกับทางไปรษณีย์สามารถแจ้งให้ลูกค้านั้นตรวจสอบได้ที่ http://www.complexplaza.com/status ได้ทันที
ตัวอย่าง Link โฆษณาสำหรับผู้ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
Link โฆษณาสำหรับผู้ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
Link โฆษณาเข้าสู่หน้าแรก ComplexPlaza
สำหรับผู้ ไม่มี เว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ต้องการนำไปลงโฆษณาตามเว็บ Classified ต่างๆ
การทำงาน: บันทึกว่าเป็นลูกค้าของคุณ และบันทึกว่าตัวแทนจำหน่ายย่อยของคุณ จากนั้น เข้าสู่หน้าแรกของ ComplexPlaza.com
Link โฆษณาไปหน้ารวมสินค้าทุกหมวด
สำหรับผู้ ไม่มี เว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ต้องการนำไปลงโฆษณาตามเว็บ Classified ต่างๆ
การทำงาน: บันทึกว่าเป็นลูกค้า และบันทึกว่าตัวแทนจำหน่ายย่อยของคุณ จากนั้น เข้าสู่หน้าสินค้าทุกหมวด
http://www.plazacomplex.com/
Link โฆษณาไปหน้าสินค้าที่ต้องการ
สำหรับผู้ ไม่มี เว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่ต้องการนำไปลงโฆษณาตามเว็บ Classified ต่างๆ
การทำงาน: บันทึกว่าเป็นลูกค้าของคุณ และบันทึกว่าตัวแทนจำหน่ายย่อยของคุณ จากนั้น เข้าสู่หน้าสินค้าที่ต้องการ
(ลิงค์แบบ โฆษณาไปหน้าสินค้าที่ต้องการ จะมีชื่อให้เราเลือกหมวดของสินค้าได้ครับ)
สิทธิประโยชน์ของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์
การสมัคร ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และสามารถใช้งานเริ่มต้นหารายได้ทันทีหลังจากสมัครเสร็จ
การหารายได้มี 2 ระบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกระบบใดระบบหนึ่ง หรือจะใช้ทั้ง 2 ระบบควบคู่กันไปก็ได้ในการสมัครเพียงครั้งเดียว
ระบบที่ 1
หารายได้จากการติดป้ายโฆษณา
จุดเด่น
สะดวก ง่าย เพียงแค่ติดป้ายโฆษณา หรือโปรโมท Link ให้ลูกค้าคลิกเข้ามาสั่งซื้อสินค้า คุณก็จะได้รับรับค่าตอบแทนทันที โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ไม่ต้องรับภาระเรื่องการจัดส่ง, รับชำระเงิน หรือตาม Order สินค้าจากลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอด
ผู้มีเว็บไซต์เป็นของตนเอง, หรือผู้ใช้บริการบริการฟรีเว็บไซต์ รวมไปถึงผู้ใช้เว็บไซต์ สำเร็จรูปต่างๆ ใน Internet หรือ แม้แต่ไม่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง แต่มีลู่ทางนำเสนอสินค้า เพื่อจำหน่ายใน Internet ได้ เช่น ฝากโฆษณษตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือนำ Link ของสินค้าไป Post โฆษณาตามเว็บ Classified ทั่วไป ที่เปิดโอกาสให้ Post โฆษณาขายสินค้า… คุณสามารถสมัครเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพื่อนำสินค้าที่เราจัดเตรียมเอาไว้ ไปวางจำหน่ายในเว็บไซต์ของคุณได้ทันที โดยเพียงแต่คุณนำ HTML Code, Link ที่คุณจะได้รับจากเรา ไปใส่เอาไว้ในเว็บไซต์ของคุณ ระบบจะนำป้ายโฆษณา และสินค้ากว่า 404 รายการ ไปผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนแสดงบนเว็บไซต์คุณโดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม
ระบบที่ 2
หารายได้โดยการนำสินค้าไปขายตรงด้วยตนเอง
จุดเด่น
สามารถกำหนดราคาสินค้าเพื่อเพิ่มกำไรได้ด้วยตนเอง
คุณสามารถรับชำระเงินโดยตรงจากลูกค้า ด้วยระบบของคุณเองได้ทันที
สามารจบการขายที่เว็บไซต์ของคุณได้ทันที โดยไม่ต้องส่งลูกค้ามาซื้อของกับทางเรา
ไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอาไว้ และไม่ต้องรับภาระเรื่องการจัดส่ง และติดตาม Order จากลูกค้า เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอด
มีระบบตรวจสอบความคืบหน้าในการสั่งซื้อสินค้า ให้กับลูกค้าของคุณ เพื่อใช้เข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการสั่งซื้อ พร้อมตรวจสอบเลขที่สิ่งของในการจัดส่งสินค้า ได้ด้วยตนเองแบบ Real Time
ได้รับผลตอบแทนมากถึง 3 ต่อ คือ
ผลตอบแทนจากการกำหนดราคา
ผลแทนแทนปกติของตัวแทนจำหน่าย 10%-20%
ผลตอบแทนจากการขายสินค้าที่ใกล้เคียงกัน
การหารายได้โดยการกำหนดราคาสินค้าเพื่อขายตรงเองนี้ เราจะเรียกว่า “ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง“
นอกจากรายได้ของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ จะได้รับจากการติดป้ายโฆษณาในเว็บไซต์ของคุณแล้ว คุณยังสามารถใช้ “ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง” ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยท่านสมาชิกตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพิ่มยอดขาย ที่ขณะนี้ได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคุณไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเอง แต่เพียงแค่คุณหาลูกค้าด้วยวิธีการใดๆ ก็ได้ตามวิธีของคุณ จากนั้นเมื่อลูกค้ามีความประสงค์จะซื้อสินค้า คุณก็รับชำระเงินจากลูกค้าให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยมาทำการสั่งซื้อสินค้าให้ลูกค้าของคุณเอง แถมเรายังมีระบบตรวจสถานะความคืบหน้าของ Order นั้นๆ ให้กับลูกค้าของคุณเข้ามาตรวจสอบได้ด้วยตนเองแบบ Real Time อีกด้วย โดยที่คุณไม่ต้องเป็นผู้รับภาระ ในการจัดส่ง และติดตาม Order สินค้าจากลูกค้าแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทฯ มีการจัดส่งสินค้าทุกวันจันทร์-ศุกร์ พร้อมทั้งมี Call Center คอยให้บริการลูกค้าอยู่ตลอด
เมื่อคุณเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์กับแราแล้ว คุณสามารถชวนเพื่อนที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเองมาสมัครเป็น “ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย)” ภายใต้การแนะนำ ของคุณได้ ประโยชน์ก็คือ คุณจะได้รับ “ค่าตอบแทนเสริม“ ทันที เมื่อตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ของคุณนี้ ขายสินค้าได้ในทุกๆ Order ตลอดไป
นอกจากนั้นคุณสามารถที่จะ ชวนคนมาสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ของคุณกี่รายก็ได้ไม่จำกัด เพื่อเป็นโอกาส ในการสร้างค่าตอบแทนเสริมของคุณให้มีมากขึ้นไปเรื่อยๆ
ดังนั้นค่าตอบแทนที่คุณจะได้รับจะมีมากถึง 2 ต่อ คือ
ต่อที่ 1 ได้ค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณ 10% – 20%
สำหรับค่าตอบแทนต่อที่ 1 ซึ่งเป็นค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของคุณนั้นระบบจะคำนวนให้มากถึง 10% – 20% โดยจะใช้อัตราค่าตอบแทนดังนี้
อัตราค่าตอบแทน เงื่อนไข
10% ในระยะแรกตัวแทนจำหน่ายทุกคน จะได้รับค่าตอบแทนในอัตรานี้
14% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 1 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 14%
16% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 2 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 16%
18% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 3 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 18%
20% หากเฉลี่ยขายสินค้าได้โดยประมาณวันละ 4 Order ภายใน 1 เดือนจะปรับค่าตอบแทนให้เป็น 20%
ทุกอัตราค่าตอบแทน ยังไม่รวมค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ที่คุณจะได้รับอีก 3%
ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างดีด้วยระบบหารายได้โดยการนำสินค้าไปขายตรงด้วยตนเอง หรือที่เรียกว่า “ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์มาซื้อให้เอง“
เนื่อง จากสินค้าที่จำหน่ายในเว็บไซต์นั้นโดยปกติจะมีส่วนลดเฉลี่ย 15% จากราคาปกต่อสินค้า 1 ชิ้น นั่นหมายความว่า หากพูดกันในแง่ของธุรกิจการขายของแล้ว การเป็นตัวแทนจำหน่ายฯ กับเรา ถือว่าคุณได้ส่วนลดในการขายสินค้ามากถึง 25% – 35% (เมื่อนำส่วนลดจากราคาปก 15% มาคำนวนด้วย) โดยที่ไม่ต้องลงทุนใดๆ โดยเฉพาะท่านที่เลือกใช้ระบบที่ 2 ในการจำหน่ายสินค้าจะเข้าใจดี (ตารางแสดงอัตราค่าตอบหลักแทนที่คุณจะได้รับ)
หมายเหตุ:
การปรับระดับ % ขึ้นนั้น ระบบจะดูจากภาพรวมของการสั่งซื้อสินค้า ซึ่งจะอนุโลมให้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการสั่งซื้อทุกวัน แต่ขอให้เฉลี่ยแล้วมีการขายสินค้าตามจำนวนที่ระบุไว้
ตัวแทนจำหน่ายที่ได้ปรับค่าตอบแทนขึ้นแล้ว หากมียอดขายลดลง บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาปรับลดอัตราค่าแทนแทนลงมา ตามความเหมาะสม
ต่อที่ 2 และได้ค่าตอบแทนจากยอดขายสินค้าของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) อีก 3% โดยที่สามารถมีเพิ่มมากขึ้นไปได้เรื่อยๆ ไม่จำกัด
โปรดสังเกต ค่าตอบแทนจะคำนวนจาก ยอดขายสินค้า ในทุกระดับ และมีอัตราที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่จำกัด
หาก คุณเป็นเจ้าของหลายเว็ปไซต์ คุณสามารถสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพียง Account เดียว และใช้งานร่วมกันหลายๆ เว็บไซต์ได้ทันที เพื่อที่จะได้ร่วมกันสะสมค่าตอบแทนได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ใหม่
ผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาสินค้า มาจากเว็บไซต์ของคุณ จะถือว่าเป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมาทันที
ระบบจะมีการจดจำลูกค้าที่คุณแนะนำมาเป็นเวลา 365 วัน โดยใช้ระบบ Cookie นั่นหมายความว่า ภายใน 365 วัน หากลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ มีการซื้อสินค้าวันไหนก็ตาม และจะสั่งซื้อกี่ครั้งก็ตาม ระบบจะรู้ทันทีว่า ลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าที่คุณแนะนำมา และคุณก็จะได้รับค่าตอบแทนในทุกๆ ครั้ง ตลอดทั้ง 365 วัน ทันที ถึงแม้ว่าลูกค้าผู้นั้นจะได้ปิด Browser หรือปิดเครื่องไปแล้ว ข้อมูลก็ยังคงอยู่ ซึ่งระบบจะสามารถตรวจสอบได้ว่า รายการสั่งซื้อนี้ เป็นรายการสั่งซื้อจากลูกค้าของคุณ และหากใน 365 วันนี้ ลูกค้ามีการคลิ๊กป้ายโฆษณาจากเว็บไซต์คุณเข้ามาใหม่ ระบบก็จะเริ่มย้อนกลับไปนับเป็นวันที่ 1 ใหม่ และเริ่มนับไปจนครบ 365 วันใหม่อีกครั้ง
ในระยะเวลา 365 วัน นอกจากคุณจะมีโอกาสได้ Comission จากผู้ที่คลิ๊กป้ายโฆษณาของคุณแล้ว หากผู้นั้นมีการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ คุณก็จะได้สิทธิเป็นผู้แนะนำ และผู้นั้นจะกลายเป็น ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ (ย่อย) ภายใต้การแนะนำของคุณทันที ทำให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็น 2 ชั้น ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ระบบยังมีส่วนที่ใช้แสดงสถานะผู้แนะนำ (Affiliate) อยู่ที่บริเวณด้านล่างของเว็บไซต์ ComplexPlaza.com ซึ่งจะคอยแสดงรหัสตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ของคุณ ในเครื่องของลูกค้าอยู่ตลอด 365 วัน ในระหว่างที่ลูกค้าที่คุณแนะนำมานี้ ใช้งานอยู่ในเว็บไซต์
คุณสามารถตรวจสอบสถานะของใบสั่งซื้อแต่ละใบได้ว่าขณะนี้อยู่ในสถานะใด เช่น ตรวจสอบว่า ใบสั่งซื้อนี้ส่งสินค้าหรือยัง ฯลฯ โดยจะเป็นฐานข้อมูลเดียวกับ ที่เจ้าของร้านใช้ในการตรวจสอบการสั่งซื้อแบบ Online
เมื่อมีการขายสินค้าได้ผ่านเว็บไซต์ของคุณ จะมี Email แจ้งไปให้คุณทราบโดยอัตโนมัติทันที
ผู้ที่มียอดค่าตอบแทนมากกว่า ฿1,000.00 ระบบจะทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้คุณโดยอัตโนมัติ ในวันที่ 15 ของทุกๆ เดือน แต่ถ้าหากยังไม่ถึง ก็จะสะสมยอดต่อไปเรื่อยๆ โดยจะทำการโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่คุณกำหนดทันที
ข้อควรระวังสำหรับผู้ใช้ ขณะนี้มีผู้ใช้หลายท่านสมัครแล้ว แต่แจ้งเข้ามาว่า Login เข้าระบบไม่ได้? … เนื่องจากว่าการ Login เข้าสู่ระบบของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์นั้น จะต้องใช้แบบฟอร์มหน้า Login ของตัวแทนจำหน่ายออนไลน์เท่านั้น โดยคลิ๊กที่ Tab ชื่อ ตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ และคลิ๊กที่ เข้าสู่ระบบตัวแทนจำหน่ายออนไลน์ เพราะว่าแบบฟอร์ม Login ในส่วนอื่นๆ นั้น จะเป็นแบบฟอร์ม Login ของลูกค้าที่มาซื้อสินค้ากับทางเว็บไซต์ของเรา
ข้อห้าม
ห้ามโฆษณาโดยการ SPAM Email มิเช่นนั้นจะถูกแบนทันทีและ ทางเราจะไม่รับผิดชอบใส่ความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อมีการแบน ส่วนการประชาสัมพันธ์ในลักษณะส่ง Maillist ให้สมาชิกของเว็บไซต์ของคุณสามารถกระทำได้
ในการนำสินค้าไปลงประกาศขาย หรือนำไปลงโฆษณาตามเว็บไซต์ Classified ที่เปิดโอกาสให้ลงโฆษณาสินค้า ห้ามใช้ Email ของทาง ComplexPlaza ในการสมัครสมาชิก เนื่องจากหากคุณใช้ Email ของทาง ComplexPlaza ในการสมัครสมาชิก ทุกครั้งที่คุณมีการลงโฆษณากับเว็บไซต์เหล่านั้น จะมี Email รายงานการลงโฆษณาส่งมายังเรา
ขอ สงวนสิทธิ์ในการลบผู้ใช้ที่ไม่จริงใจ สมัครแล้วแต่ไม่นำป้ายโฆษณาไปติดในเว็บไซต์ของตนเอง หรือสมัครแล้วเพิกเฉยไม่มีกาสนใจทำการขาย และจะไม่รับสมัครเข้ามาอีก และขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงข้อมูลต่างๆ โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเข้าใจหมดแล้ว ก็สมัครเลยครับ ก่อนที่เขาจะปิดรับสมัคร(เคยเจอบางแห่งครับเปิดรับจำนวนจำกัด)
คลิกที่ลิงค์นี้เพื่อสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย Online ได้เลยครับ
วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553
ฉันชื่อโอกาส
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjGACqvXUdnkbDPjKNal6UyGrzUUg5VG9m8VafZFpuzJArpUVdhv1UoJfoZtdhlalZIdHNiCoCWjdMLp3OH-kKi1UGlpypAa8azpXum3wXwvqZwLYY5tM3-KcjMiJuD0zjos2xygY9MXq4/s320/%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%99_%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD_%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA.jpg)
ที่เมืองหนึ่งของประเทศกรีก
เคยมีรูปปั้นแกะสลักตั้งอู่ใจกลางเมือง
ปัจจุบันนี้ รูปปั้นนี้ไม่เหลือแม้แต่ซาก
แต่แผ่นที่จารึกที่บรรยายเกี่ยวกับรูปปั้นยังคงเหลืออยู่
คำบรรยายเขียนไว้ในรูปแบบการสนทนาระหว่างรูปปั้นกับคนที่เดินผ่านไปมา
“รูปปั้นเอ๋ย ท่านชื่ออะไร”
“ฉันชื่อโอกาส”
“ใครเป็นคนแกะสลักท่านขึ้นมา”
“ช่างแกะสลักชื่อ ลีซีปัส”
“ทำไมท่านจึงยืนเขย่งเท้า?”
“เพื่อบ่งบอกว่าฉันอยู่เพียงชั่วครู่ชั่วยาม”
“แล้วทำไมที่เท้าของท่านจึงมีปีก”
“เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว”
“แต่ทำไมผมด้านหน้าของท่านจึงยาวอย่างนี้”
“ก็เพื่อให้คนที่พบฉัน
จะได้จับฉวยไว้ได้ง่าย”
“แล้วทำไมหัวด้านหลังของท่านจึงล้าน
ไม่มีผมแม้แต่เส้นเดียว”
“ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า เมื่อฉันผ่านไปแล้ว
ก็ยากที่จะจับฉันได้ใหม่”
มีผมยาวแต่ด้านหลังล้านเกลี้ยง
เพราะเมื่อปล่อยให้
“โอกาส”
ผ่านไปแล้ว ก็ยากที่จะจับยึดมันกลับมาได้อีก
“โอกาส” จึงเร้าเตือนเราทุกคนว่า
“อย่ามาต่อว่าฉัน ว่า ฉันไม่เคยมาเยี่ยมกราย
เพราะบ่อยครั้งเหลือเกินที่ฉันมาเคาะประตู
แต่เธอกลับไม่อยู่บ้าน
ทุกวัน ฉันยืนรออยู่ที่หน้าบ้านเธอ
เรียกให้เธอตื่น ให้ขยันขันแข็ง
ให้รีบตัดสินใจ
ให้ลงมือทำ
ให้ออกแรง ให้สู้
เพื่อจะได้มาซึ่งชัยชนะและความสำเร็จ
จงอย่าปล่อยให้ฉันผ่านไป
เธอจะได้ไม่ต้องนั่งเสียใจในภายหลัง
ที่ฉัน “โอกาส” ผ่านมา แต่เธอไม่รู้จักจับฉวย
จาก http://blogger-today.blogspot.com
วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553
ชายหาบน้ำ กับคนวางท่อ
English Version, The Parable Of Pipeline
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งกันดาร แห้งแล้ง ชาวบ้านต้องการน้ำอาบ น้ำใช้
หัวหน้าหมู่บ้านจึงได้ติดต่อไปหา ชายคนหนึ่ง ซึ่งเค้าอาสาจะหาบน้ำจากลำธารมาให้ทุก ๆ เช้า และเย็น โดยแต่ละบ้านจะต้องจ่ายค่าจ้างเค้าหลังละ 6 บาท
ชาวบ้านก็ตกลง จากนั้นชายหาบน้ำก็ทำการหาบน้ำมาขายให้ทุก ๆ วัน
ด้วยประชากรหลายร้อยหลังคาเรือน ทำให้ชายหาบน้ำ ต้องหาบทั้งวัน แต่เค้าก็ดีใจที่ได้เงินจำนวนมากมาย เพียงแค่ออกแรงหาบน้ำเท่านั้นเอง เพราะเค้ามีกระบุง ซึ่งชาวบ้านไม่มี ก็เลยต้องพึ่งพาอาศัยเค้า
*******************************************************************************
AutoGenic สัญจร เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น.
สถานที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้ (ใกล้วัดพระสิงห์)
คุณเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ประสบความสำเร์จในชีวิตมั้ย?
คุณจิตนาการภาพความสำเร็จของคุณไม่ออกใช่รึเปล่า?
คุณกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสำเร็จเหมือนคนอื่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มั้ย?
คุณกำลังรู้สึกว่าคุณไม่เก่งเหมือนคนอื่น...
คุณคิดว่าการหาคนที่คิดเหมือนคุณ มีเป้าหมายใหญ่เหมือนคุณมันช่างยากเย็น...
ขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปฃะด้วย Autogenic Training
นี่คือคำตอบ...ของความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
"สุดยอดยอดคอร์สการโปรแกรมจิตแบบที่คนสำเร็จทุกคนรู้ แต่ไม่เคยบอก"
อบรม วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น
รวมค่าอาหาร 2 มื้อ คอฟฟี่เบรก ๅ เบรก
คอร์สมูลค่ามากกว่า 5000 บาท ในราคาพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ในราคาเพียงท่านละ 1000 บาท เท่านั้น
ปล สำหรับเด็กตั้งแต่ 12-15 ปี ราคาพิเศษ 800 บาท/ท่าน
ด่วนจำนวนจำกัดแค่ 100 ท่านแรกเท่านั้น
โทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430 คุณธนพนธ์ 090 798 3374
********************************************************************************************************************************
แล้วชายผู้นั้นก็เลยไปอีกหมู่บ้านที่แห้งแล้งเหมือนกัน บอกว่า ต่อไปนี้เค้าจะนำเอาน้ำมาให้กับทุก ๆ หลังคาเรือน ชาวบ้านก็ดีใจมาก แล้วเค้าก็หายไป เนิ่นนาน....
วันนึงเค้าก็กลับมาอีก พร้อมกับท่อแป้บ และเครื่องมือมากมาย แล้วรีบดำเนินการต่อเครื่องสูบน้ำเข้ากับลำธาร เดินสายท่อแป้บเข้าหมู่บ้าน โดยที่แต่ละบ้านจ่ายเค้าเพียงหลังคาเรือนละ 3 บาทต่อวัน
เค้าบอกว่า วันเวลาที่หายไป เค้าได้ทำการศึกษาวิธีการวางท่อ และเดินสายท่อแป้บ
จากนั้นเค้าก็ไปติดต่อหมุ่บ้านอื่น ๆ อีก และได้ทำการวางท่อแบบนี้ทุก ๆ หมู่บ้าน ในแต่ละวันที่ชาวบ้านเปิดน้ำใช้ เงินก็ไหลเข้ากระเป๋าของเค้า ทุกวัน ทุกวัน และ ทุกวัน
เนิ่นนานผ่านไป ชายหาบน้ำก็หมดแรง หาบไม่ไหวแล้ว รายได้ก็เริ่มลดลง ทุกวัน และทุกวัน
ส่วนคนวางท่อกลับมีรายได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่เค้าแก่มากแล้ว และไม่มีแรงจะวางท่อต่อไปอีก ทว่า สิ่งที่ได้สร้างไว้นั้น มันทำเงินได้ไม่ว่าเค้าจะหนุ่ม หรือแก่...
แล้วเราล่ะครับ จะหาบน้ำ หรือวางท่อ
The Rich
“The world has changed, but education has not changed with it.” - Robert Kiyosaki
Robert Kiyosaki on ABC News
As the banks are busy printing trillions and money is going down in value, here are some tips to start thinking about money in a new way.
- Money is Knowledge
Saving money is bad when getting no return on bonds, stocks or cash in bank. Buy hold and pray strategies are insanity! Learn how money works and how to invest and use debt, rather than be a slave to it.
- Need for Speed
Younger people are becoming extremely rich on the internet whilst some older people are struggling to make a living. You can become rich by the speed that you are able to process business data. Become web savvy and learn how to use the internet and technology to your advantage.
- Learn the Language of Money
We don't have financial education in schools. The saying 'it takes money to make money' is not completely true, it actually takes 'words to make money'. Learn the vocabulary of the market and business that you operate in so that you can understand what people are talking about and leverage it financially.
Robert Kiyosaki on ABC News
As the banks are busy printing trillions and money is going down in value, here are some tips to start thinking about money in a new way.
- Money is Knowledge
Saving money is bad when getting no return on bonds, stocks or cash in bank. Buy hold and pray strategies are insanity! Learn how money works and how to invest and use debt, rather than be a slave to it.
- Need for Speed
Younger people are becoming extremely rich on the internet whilst some older people are struggling to make a living. You can become rich by the speed that you are able to process business data. Become web savvy and learn how to use the internet and technology to your advantage.
- Learn the Language of Money
We don't have financial education in schools. The saying 'it takes money to make money' is not completely true, it actually takes 'words to make money'. Learn the vocabulary of the market and business that you operate in so that you can understand what people are talking about and leverage it financially.
วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553
กลยุทธ์ที่ 31 สาวงาม
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhAto2rkiwIWhKufAKCI6Fxs7MdHvOIr4L7JvTQV-Iw_37GdNcKRfLsBNKeqlYwpaF5G8zDVxSzqB-1_THuHVfzuJcP6EyVNTiCpplciuf-4Y-OPG8vBqCDMEfw_Fd5G6Hr55VTamT_tWI/s320/%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%8D%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%A1.jpg)
แม่ทัพที่ฉลาดให้โจมตีที่อารมณ์ความรัก
เมื่อแม่ทัพอ่อนแอแล้วไซร์
กองทหารย่อมจะอ่อนแอตามไปด้วย...ซุนวู
ใช้ไม้แข็งนั้นยากนักที่จะสยบฝ่ายศัตรู
ให้ใช้กลเม็ดแบบนุ่มนวลชวนใจ จะสามารถสลายวิญญาณของการต่อสู้ให้อ่อนแอ...
ในการแข่งขันธุรกิจยุคใหม่ ผู้ประกอบการมักใช้กับดักความงามเป็นแนวทางใหม่เพื่อขยายวง การใช้ "กลยุทธ์สาวงาม" หรือปัจจุบันรวมถึง "กลยุทธ์หนุ่มหล่อ รวย เท่ห์" ในการดึงดูดความสนใจของผู้คนเข้าหาผลิตภัณฑ์และบริการ
นับจากหลุมพรางของความงามพิสูจน์ให้เห็นว่าความรักสวยรักงามเป็นความต้องการอย่างแรงของมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย ความสวยงามจึงจึงถูกนำมาใช้ส่งเสริมการผลิต การขาย และการบริการต่อผู้บริโภค ด้วยเหตูนี้จึงสามารถสร้าง Brand Image คุณค้่ที่ดีทางการตลาดให้แก่ธุรกิจได้
แต่ถ้าเรามุ่งแต่จะดำเนินธุรกิจเพื่อเงินหย่างเดียวแล้วไซร์ กลับจะได้ผลลัพธ์เป็นลบ ต่อเมื่อใด เรารู้จักเข้าใจถึงจิตใจมนุษย์เท่านั้นแล้ว เราจึงจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ และ บีการที่สนองตองต่อจิตใจของคน และแล้วเงินก็หลั่งไหลตามมาโดยอัตโนมัติ
Robert Kiyosaki - Cashflow 101
How to get out of a Rat Race!!! 21 videos about 30 mins.
Part 1/21
Part 2/21
Part 3/21
Part 4/21
Part 5/21
Part 6/21
Part 7/21
Part 8/21
Part 9/21
Part 10/21
Part 11/21
Part 12/21
Part 13/21
Part 14/21
Part 15/21
Part 16/21
Part 17/21
Part 18/21
Part 19/21
Part 20/21
Part 21/21
Part 1/21
Part 2/21
Part 3/21
Part 4/21
Part 5/21
Part 6/21
Part 7/21
Part 8/21
Part 9/21
Part 10/21
Part 11/21
Part 12/21
Part 13/21
Part 14/21
Part 15/21
Part 16/21
Part 17/21
Part 18/21
Part 19/21
Part 20/21
Part 21/21
เจริญ สิริวัฒนภักดี ผู้ขี่ช้างกระทืบสิงห์
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhWl5RaulJ0u0G_fCgX1ib-PhYiFErpUUz45obYv8PODO1C-8ToYBB9to2FzZIFUPoG4OjVXoXokC7ndRLZdvQ5LfR_3DZ3OR7c3J2Xw7WP9Uvulz3zridRWuLlSclp6oLIB_R8mc10IKo/s320/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%8D_%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B5.jpg)
คำกล่าวของเจ้าสัวเจริญ
"ถ้าคุณอดทน เพื่อจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ คุณจำเป็นอย่างมากที่จะต้องลงมือศึกษาเรื่องนั้นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจัง แต่ถ้าคุณไม่อดทน โอกาสที่คุณจะผิดพลาดก็ย่อมมีสูงเช่นกัน"
ประวัติของ “เจริญ สิริวัฒนภักดี“ มีการเขียน เรียบเรียงจำนวนมาก สรุปได้ว่า เขามีชื่อจีน “โซวเคียกเม้ง” เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2487 บิดามีอาชีพ ”ขายหอยทอด” ใช้เวลาเรียนถึง 8 ปีเพื่อให้จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเผยอิง เพราะสอบตกเรียนซ้ำชั้น แต่มีข้อดีทำให้มีเพื่อนหลายรุ่น และมีเวลานานพอที่จะหาเลี้ยงชีพด้วยการขายของเล็กๆ น้อยๆ เมื่อเขา 11 ปี ได้รับจ้างเข็นรถส่งสินค้า ย่านสำเพ็ง ทรงวาด จากนั้นก็ขยับเป็นพ่อค้าหาบของขาย
ปี 2504 ได้เป็นลูกจ้างของชาวจีนที่อพยพมาอยู่เมืองไทยคนหนึ่ง ในบริษัทย่งฮะเส็ง และห้างหุ้นส่วนจำกัด แพนอินเตอร์ ที่จัดส่งสินค้าให้โรงงานสุราบางยี่ขั้น และเพียงปีเดียวเขาได้เป็น ”ซัพพลายเออร์” ให้โรงงานสุราบางยี่ขันเอง นำมาสู่การรู้จักกับนายจุล กาญจนลักษณ์” ผู้เชี่ยวชาญการปรุงรสสุรา โดยเฉพาะสูตร ”แม่โขง” และคุ้นเคยกับเจ้าสัว เถลิง เหล่าจินดา” ผู้มีอำนาจในการจัดซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างของโรงงาน โซเคียกเม้ง” กลายเป็นขุนพลคู่ใจของเจ้าสัวเถลิงในเวลาไม่นาน เพราะความอ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ กลยุทธ์ แลเคล็ดลับในการทำธุรกิจสุราจึงเป็นของเขาในที่สุด
*******************************************************************************
AutoGenic สัญจร เชียงใหม่
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น.
สถานที่ โรงแรมบีพี เชียงใหม่ ซิตี้ (ใกล้วัดพระสิงห์)
คุณเคยกลัวว่าตัวเองจะไม่ประสบความสำเร์จในชีวิตมั้ย?
คุณจิตนาการภาพความสำเร็จของคุณไม่ออกใช่รึเปล่า?
คุณกำลังลังเลไม่แน่ใจว่าตัวเองจะสำเร็จเหมือนคนอื่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้มั้ย?
คุณกำลังรู้สึกว่าคุณไม่เก่งเหมือนคนอื่น...
คุณคิดว่าการหาคนที่คิดเหมือนคุณ มีเป้าหมายใหญ่เหมือนคุณมันช่างยากเย็น...
ขจัดความรู้สึกเหล่านี้ออกไปฃะด้วย Autogenic Training
นี่คือคำตอบ...ของความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
"สุดยอดยอดคอร์สการโปรแกรมจิตแบบที่คนสำเร็จทุกคนรู้ แต่ไม่เคยบอก"
อบรม วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 09.00-23.00 น
รวมค่าอาหาร 2 มื้อ คอฟฟี่เบรก ๅ เบรก
คอร์สมูลค่ามากกว่า 5000 บาท ในราคาพิเศษที่หาไม่ได้อีกแล้ว
ในราคาเพียงท่านละ 1000 บาท เท่านั้น
ปล สำหรับเด็กตั้งแต่ 12-15 ปี ราคาพิเศษ 800 บาท/ท่าน
ด่วนจำนวนจำกัดแค่ 100 ท่านแรกเท่านั้น
โทร คุณพิมพ์สิริ 083 018 9430 คุณธนพนธ์ 090 798 3374
******************************************************************************************************************************
เมื่ออยู่ในวงการของเจ้าสัวแล้ว จึงได้มีโอกาสพบกับ ”วรรณา แซ่จิว” หรือปัจจุบันคือ ”คุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี” บุตรสาวของเจ้าสัวกึ้งจู แซ่จิว
ปี 2518 บริษัทธารน้ำทิพย์ ผู้ผลิต ”ธาราวิสกี้” ของ ”พงส์ สารสิน” และ ”ประสิทธิ์ ณรงค์เดช” ประสบภาวะขาดทุนและประกาศขาย กลุ่มเจ้าสัวเถลิงและ “เจริญ” จึงเข้าซื้อกิจการ ซึ่งก็คือบริษัทแสงโสมในปัจจุบัน
ปี 2529 “เจริญ” ที่ได้กลายเป็น ”เจ้าสัว” ไปแล้ว ได้เข้าสู่ธุรกิจธนาคาร และการเงิน ด้วยความช่วยเหลือของ ”พ่อตา” เข้าไปซื้อหุ้นในธนาคารมหานคร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์มหาธนกิจ ซื้อหุ้นในบริษัทอาคเนย์ประกันภัย และอีกหลายกิจการ
ปี 2537 ซื้อกิจการกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ที่มีโรงแรมในเครือจำนวนมากจากนายอากร ฮุนตระกูล และจากนั้น ”เจ้าสัวเจริญ” ก็ขยายธุรกิจอย่างไม่เคยหยุดยั้ง จนกระทั่งถึงปัจจุบัน โดยมีทายาท 5 คน พร้อมสานต่อ คือ อาทินันท์ วัลลภา ฐาปน ฐาปนี และปณต
ตำแหน่งทางธุรกิจในปัจจุบัน
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยเบฟเวอร์เรจ จำกัด (มหาชน)
ประธานกลุ่มบริษัท สุรามหาราษฎร จำกัด
ประธานกรรมการบริหาร บริษัททีซีซี กรุ๊ป
ข้อมูล www.thaimillionaire.net
การกินเบียร์ในสายตาของผู้เสพแอลกอฮอล์เป็นอาหารจะรู้สึกว่ามันสิ้นเปลือง เพราะเหล้านั้นทำให้เมาได้เร็วกว่าในราคาที่ถูกกว่า (เมื่อเทียบกันกับระยะเวลาในการทำให้มึน) แต่ถ้าเป็นพวกที่ละเมียดเสียหน่อยจะนิยมเบียร์ เพราะมันจะเริ่มไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่ก้าวกระโดดมึนอย่างเหล้าฝรั่งหรือเหล้ายาดอง
สมัยก่อนโน้น การกินเบียร์ออกจะดูหรูหราฟู่ฟ่าอยู่สักหน่อย เบียร์จัดเป็นเครื่องดื่มของคนชั้นกลางค่อนข้างไปทางสูง ใครที่นั่งจิบเบียร์จึงดูมีมาด เบียร์จึงเหมาะสำหรับบรรดานักธุรกิจ ออฟฟิศแมน หรือพวกเจ้านาย มากกว่าพวกพนักงานกินเงินเดือนหรือกลุ่มผู้ใชแรงงาน นานๆ ทีนั่นแหละถึงจะได้ลิ้มรสฟองละมุนดูสักครั้ง ที่พึ่งพากันได้อยู่ก็พวกเหล้าขาว เหล้าโรง หรือเหล้าไทยสไตล์ฝรั่งที่มีขายในราคาที่พอสู้ไหว
เบียร์ไทยในยุคก่อนนั้นอาจเรียกได้ว่าถูกผูกขาดโดย บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ ผู้ผลิต “เบียร์สิงห์” เรียกได้ว่าถ้าสั่งเบียร์ปุ๊บ เด็กเสิร์ฟก็ยกสิงห์มาประเคนให้ทันที ยกเว้นว่าจะระบุยี่ห้อไป แต่ก็อีกนั่นแหละ ในช่วงนั้นจะมีคู่แข่งที่สู้กับสิงห์ได้ก็เป็นเบียร์นอกอย่าง “คลอสเตอร์” ซึ่งก็เก็บผู้บริโภคในระดับสูง (มาก) คนไทยจึงคุ้นลิ้นกับเบียร์สิงห์มาเนิ่นนาน
บริษัท บุญรอดฯ นั้นนอกจากจะผลิตเบียร์สิงห์แล้ว ยังเป็นผู้ผลิตโซดาตราสิงห์ น้ำดื่มตราสิงห์ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ผลิตสุรา แต่ในวงการน้ำเมาพวกเขาก็กวาดตลาดไปเกือบเกลี้ยง ในขณะที่เหล้ายี่ห้อดังของเมืองไทยก็คือ แม่โขง ในสมัยนั้นผลิตโดยบริษัท สุรามหาคุณ ก็ดูเหมือนจะไปกันได้ดีกับบุญรอดฯ จนกระทั่ง เจริญ สิริวัฒนภักดี ก้าวเข้ามาสู่วงการน้ำเมา บัลลังก์ของบุญรอดฯ จึงเริ่มสั่นสะเทือน
เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี
คุณเจริญ ก็เหมือนเจ้าสัวใหญ่ท่านอื่นๆ ที่เริ่มต้นจากเด็กยากจนที่มีหัวการค้ามาตั้งแต่เด็ก เริ่มจากเป็นเด็กรับจ้างเข็นรถส่งของในตลาด หาบของขายเล็กๆ น้อยๆ จนกระทั่งมีโอกาสเปิดร้านโชวห่วยของตัวเองและเริ่มก้าวขึ้นมาเป็นนักธุรกิจดาวรุ่งดวงใหม่ ต่อมาคุณเจริญจับมือกับ คุณเถกิง เหล่าจินดา ก่อตั้งบริษัท แสงโสม และเข้าไปซื้อกิจการ บริษัท ธารทิพย์ ผู้ผลิตวิสกี้ธารา ซึ่งเป็นคู่แข่งของ สุราแม่โขง ของกลุ่มสุรามหาราษฎร และต่อมาไม่นานเขาก็จัดการกลืนกินบริษัท สุรามหาราษฎร มาเป็นของตัวเองในที่สุด
ดังนั้นคุณเจริญจึงกลายเป็นเจ้าพ่อในวงการเหล้า ทั้งวิสกี้ เหล้าขาว เหล้าสี เชี่ยงชุน หงส์ทอง แสงโสม แม่โขง ฯ เพราะสามารถกินส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้ถึง ๙๐% มีมูลค่ามากกว่า ๖ หมื่นล้านบาท (ปี พ.ศ. ๒๕๓๐)
อย่างที่เล่าไว้ในตอนต้นว่าตลาดของเหล้านั้นเจาะไปที่กลุ่มผู้บริโภคระดับล่าง ในขณะที่เบียร์นั้นพุ่งไปที่กลุ่มชนชั้นกลาง แต่ในใจของคุณเจริญนั้นกำลังคิดจะเจาะตลาดเบียร์กะเขาบ้าง เริ่มแรกนั้นคุณเจริญหันไปจับมือกับเบียร์นอกอย่าง คาร์ลสเบอร์ก จากเดนมาร์กเข้ามาตีตลาดในเมืองไทยเพื่อหวังแข่งกับสิงห์ ถ้ายังพอจะจำกันได้ในช่วงปี ๒๕๓๖ เป็นช่วงที่ตลาดเบียร์เมืองไทยคึกคักสุดๆ เพราะเริ่มมีเบียร์หน้าตาแปลกๆ เข้ามาในบ้านเราหลายยี่ห้อ ทั้งคาร์ลสเบอร์ก บัดไวเซอร์ อาซาฮี ไฮเนเก้น เป็นต้น แรกๆ นั้นคนไทยก็ตื่นเต้นดีกับของใหม่อย่างคาร์ลสเบอร์ก อาจเพราะแรงส่งจากบรรดาแฟนบอลของลิเวอร์พูล สโมสรดังของพรีเมียร์ลีก ที่มีคาร์ลสเบอร์กเป็นสปอนเซอร์ อีกทั้งพวกนิยมดูบอลก็มักจะดื่มเบียร์คู่กันไปด้วยเป็นปรกติ แต่ท้ายที่สุดคาร์ลสเบอร์กก็หมดแรง โดนสิงห์ตะปบซะเละไม่มีชิ้นดี
จากนั้นคุณเจริญก็ได้ไอเดียใหม่ เขามีความคิดที่จะสร้างเบียร์ที่เหมาะกับกลุ่มคนระดับล่าง เรียกว่าเป็นเบียร์ที่คนเบี้ยน้อยหอยน้อยก็สามารถหามาดื่มได้ ไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ไปซื้อเบียร์ผูกขาดอย่างสิงห์หรือเบียร์นอกอื่นๆ จนในที่สุดเขาก็ก่อกำเนิด “เบียร์ช้าง” ขึ้นมา ในปี ๒๕๓๘
ตอนที่ช้างออกสู่ตลาดนั้นไม่ได้สู้กับสิงห์ที่รสชาติ แต่กลับสู้ด้วยราคาที่ถูกกว่าครึ่งต่อครึ่ง สิงห์ในขณะนั้นสนนราคาอยู่ที่ราวขวดละ ๕๐ บาท (หากไปสั่งในร้านอาหารหรือตามผับอาจจะขึ้นเป็น ๗๐-๘๐ บาท) แต่ช้างเปิดตัวที่ขวดละ ๓๕ บาท ถูกกว่ากันเห็นๆ แถมตลาดส่วนใหญ่ยังกระจายไปตามต่างจังหวัด ส่วนในหัวเมืองใหญ่ๆ หรือในกรุงเทพนั้น สิงห์ยังคงครองตลาดอยู่เหมือนเดิม ทำให้บุญรอดฯ ไม่ได้รู้สึกกังวลกับคู่แข่งรายนี้เลยแม้แต่น้อย และที่สำคัญต้องยอมรับกันตรงๆ เลยว่า รสชาติของช้างนั้นคนละเรื่องกับสิงห์ ถ้าตามความเห็นส่วนตัวของข้าพเจ้า จิบแรกที่ชิมช้างเข้าไปนั้นแทบบ้วนทิ้ง เพราะรสชาติไม่คุ้นลิ้น อีกทั้งยังมีรสเข้มกว่าหลายเท่า ในตอนนั้นใครๆ ต่างมองว่าช้างเป็นเพียงเบียร์สั่วๆ ที่รอเวลาตายเท่านั้น
ต่อมาไม่นานช้างก็เปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่คือการลดราคาลงเรื่อยๆ ซื้อขายกันง่ายๆ ที่สามขวดร้อย สำหรับคนเบี้ยน้อยอย่างข้าพเจ้าหรืออีกหลายๆ คนในประเทศก็หันมาเมากับช้างมากกว่าสิงห์ ด้วยราคาที่ถูกกว่ากันเยอะ นานๆ เข้าก็เริ่มคุ้นกับรสชาติของช้าง เมาได้เหมือนกัน ถูกตังค์กว่า กินไปกินมาก็เริ่มรู้สึกว่า ช้างมันก็อร่อยดีเหมือนกันแฮะ
กลยุทธ์หนึ่งที่นับว่าได้ผลคือการขายเหล้าพ่วงเบียร์ของคุณเจริญ ตอนนั้นช้างขายยากแสนยาก แต่คุณเจริญมีเหล้าอยู่ในมือ จึงเริ่มแผนการตลาดใหม่ให้เอเยนต์ที่สั่งเหล้าต้องพ่วงเบียร์ตามไปด้วย ขายได้ไม่ได้ไม่รู้ล่ะ แต่ช้างก็ถูกหว่านไปทั้งประเทศ ผู้ขายก็จำเป็นต้องรับช้างไปวางโชว์ในตู้แช่ อย่างน้อยมันก็ขายได้บ้างแหละ หรือไม่ได้มันก็เป็นการโชว์ให้คนได้เห็นผ่านตากันบ้าง ถึงอย่างนั้นช้างส่วนใหญ่ก็ยังนอนสงบนิ่งในสต๊อกของยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ทั่วประเทศอยู่ดี จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์พลิกผันในปี ๒๕๔๐
ที่เขาว่าสถานการณ์สร้างวีรบุรุษนั่นเห็นจะจริง ปี ๒๕๔๐ เกิดฟองสบู่แตก เศรษฐกิจย่ำแย่กันทั้งประเทศ ผู้คนรัดเข็มขัดกันจนท้องกิ่ว ไอ้ที่รวยก็กลายมาจนส่วนที่จนก็ยิ่งจนลงไปอีก แต่นิสัยคนไทยไม่ว่าจะยังไงพี่ไทยขอเมาไว้ก่อน สถานการณ์ที่บีบบังคับเช่นนี้รสชาติเอาไว้ทีหลัง ขอถูกตังค์ไว้ก่อน โขลงช้างสามขวดร้อยที่นอนอยู่ในสต๊อกก็ได้เวลากระโจนออกมาเสียที
ก่อนปี ๔๐ สิงห์กวาดส่วนแบ่งตลาดไปมากกว่า ๘๐% ส่วนช้างนั้นแทบจะไปไม่รอด แต่พอเข้าปี ๔๐ ช้างก็ไล่สิงห์มาติดๆ จนกินส่วนแบ่งไปเกือบ ๕๐% และทะยานแซงเกิน ๕๐% ในที่สุด นั่นหมายความว่าบัลลังก์สิงห์ถูกช้างถีบตกลงมาเสียแล้ว
ทันทีที่เริ่มได้เปรียบ คุณเจริญก็ฉกฉวยโอกาสรุกต่อทันที เมื่อช้างไปคว้าเหรียญทองมาจากออสเตรเลีย ก็เลยใช้จุดนี้มาเป็นจุดขาย แม้ว่าจะรู้ๆ กันอยู่ว่ารางวัลที่ว่านี่มันไม่ใช่ของแท้ เพราะถ้าเป็นเบียร์มันต้องเยอรมัน ไม่ใช่แดนจิงโจ้อย่างออสเตรเลีย แต่คุณเจริญก็ไม่สน และคนส่วนใหญ่ก็ไม่สน สโลแกน “เบียร์ช้าง…เบียร์เหรียญทองของไทย” ดังกระหึ่มไปทั้งประเทศ และที่ลืมไม่ได้คือเสียงเจื้อยแจ้วของ “แอ๊ด คาราบาว” ที่ร้องว่า “…คนไทยรึเปล่า?” ตอนนั้นเห็นคาราบาวที่ไหนต้องมีช้างที่นั่น ยิ่งสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเสริมให้เบียร์ช้างขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ถึงตอนนี้ช้างก็ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งอย่างเต็มตัว ซัดส่วนแบ่งตลาดไปถึง ๗๐% เหลือให้แชมป์เก่าอย่างสิงห์เพียง ๓๐%
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEirmooBobhEURZuJvMMrb8asV4APiOVNTvseYEu-9RIeyvACjpEqGcHDO1sFphw6ZKjHd2LT6KKWCaRHCKalVs3WOHfgqTsWDI-v3NC83MVBFp_06P-dYCFkqnBCKFTjsX_mwEtQ79FMwg/s320/chang-product.jpg)
และความใจป้ำทุ่มทุนสร้างของคุณเจริญก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาทุ่มเงินถึง ๕๐๐ ล้าน ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกมาให้คนไทยดูกันทั้งประเทศแบบที่ไม่มีโฆษณาคั่น เรียกคะแนนนิยมได้ทั้งประเทศ เบียร์ช้างกลายเป็นของคุ้นหูคุ้นตาคุ้นลิ้นคนไทยไปในบัดดล นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างสุดๆ เพราะฟุตบอลโลกสองครั้งหลัง คือปี ๒๐๐๒ ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และปี ๒๐๐๖ ที่เยอรมัน คนไทยแทบจะกินแต่เบียร์ช้างกันทั้งประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น ช้างยังโกอินเตอร์โดยทุ่มเงินเป็นสปอนเซอร์คาดอกเสื้อให้ทีมเอฟเวอร์ตัน เป็นการประกาศแบรนด์ไทยจนดังไปทั่วโลก ในขณะที่ช้างพุ่งเป้าไปที่ฟุตบอลอันเป็นกีฬายอดฮิตของคนไทย สิงห์ก็เอาบ้าง แต่สิงห์ดันไปเล่นของสูงเพราะไม่อยากไปต่อกรกับตลาดกลางและล่างกับช้าง โดยพุ่งไปที่สนุ้กเกอร์ เทนนิส รวมถึงคอนเสิร์ตจากต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดมีกลุ่มเป้าหมายเป็นชนชั้นกลางไปจนถึงระดับบน ดังนั้น เค้กชิ้นใหญ่ก็ยังตกเป็นของช้างอยู่เช่นเดิม
ช้าง (Chang) โกอินเตอร์ไปกับเอฟเวอร์ตัน ทีมดังในพรีเมียร์ชิพอังกฤษ
จากเด็กจนๆ คนหนึ่ง คุณเจริญ ก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าสัวอันดับต้นๆ ของประเทศ จากความมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง กล้าได้กล้าเสีย และกล้าตัดสินใจ ซึ่งผ่านกระบวนการไตร่ตรองอย่างรอบคอบ ทำให้เขาก้าวมายิ่งใหญ่ได้ในวันนี้ คำพูดหนึ่งที่คุณเจริญเคยกล่าวไว้อย่างน่าสนใจและควรนับเป็นคติในการใช้ชีวิตที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังคิดการณ์ใหญ่
“…ผมพร้อมจะเป็นน้ำนิ่ง อาจมีเขื่อนมาขวางหน้า แต่ถ้าวันใดที่เขื่อนนั้นเปราะบางและโอกาสแห่งการแสดงพลังมาถึง ผมก็พร้อมจะกลายเป็นกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก โหมกระหน่ำใส่ทุกสิ่งที่ขวางกั้น แม้กระทั่งเขื่อนที่ครั้งหนึ่งเคยสยบยอมก็ตาม…”
ข้อมูลจาำก http://janghuman.wordpress.com
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)