AEC หรือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่ประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ จะกลายเป็นตลาดเดียวกัน (single market) เป็นเขตการค้าเสรีที่ภาษีเป็น 0% ในปี 2558 จะมีข้อตกลงร่วมกันว่าจะทำให้มีการเคลื่อนย้ายเสรี (free flow) 5 สาขา คือ
1. สินค้า
2. บริการ
3. การลงทุน
4. เงินทุน
5. แรงงานฝีมือ
1. สินค้า
2. บริการ
3. การลงทุน
4. เงินทุน
5. แรงงานฝีมือ
วิเคราะห์ผลกระทบและความได้เปรียบเสียเปรียบของไทยใน 5 ด้านที่กล่าวมานี้ ก็จะพบว่า สินค้าส่งออกที่ไทยได้เปรียบ คือ ข้าวโพด ยาง เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้าสำเร็จรูป และรถยนต์ แต่ในบางรายการอาจจะเสียเปรียบ เช่นสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม อาทิ มันสำปะหลัง สิ่งทอ เม็ดพลาสติก เป็นต้น ในกรณีที่เปรียบเทียบกับตลาดอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์
การเปิดเสรีด้านบริการ ต้องยอมรับว่า สิงคโปร์น่าจะได้อานิสงส์มากที่สุดในอาเซียน โดยเฉพาะด้านไอซีที และไฟแนนเชียล ส่วนไทยจะโดดเด่นในด้าน การท่องเที่ยว สุขภาพ และความงาม
การเปิดเสรีด้านการลงทุน เป็นที่ทราบแล้วว่า ต่อไปนี้ ไทยจะไม่ใช่ฐานการผลิตที่น่าสนใจอีกต่อไป เนื่องมาจากนโยบายกีดกันลดความเชื่อมั่นของนักลงทุนทางอ้อม ประเทศเพื่อนบ้านซ้ายขวาของไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์และแรงงานราคาถูกเป็นตัวดึงดูดใจนักลงทุนต่างชาติมากกว่าของไทย แต่เหนือสิ่งอื่นใดนักลงทุนให้น้ำหนักเป็นอย่างมากกับปัจจัยด้านเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้อย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าคุณจะเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
การเปิดเสรีด้านเงินทุน ตลาดทุนในอาเซียนมีทิศทางการเคลื่อนไหวตามสภาวะการณ์ที่ผันผวนจากผล กระทบในระดับโลก กลุ่มทุนใหญ่ ๆ แค่ไม่กี่กลุ่ม และกองทุนจากต่างชาติ เป็นแรงกระเพื่อมสำคัญในการโยกย้ายเงินทุนตลาดทุนเกิดใหม่ในกลุ่ม CLV ต้องใช้ระยะเวลาตั้งไข่สักพัก ส่วนของไทยต้องดูว่ารัฐบาลในอีก 4 ปีข้างหน้ามีเสถียรภาพมากน้อยแค่ไหน เชื่อใจได้หรือเปล่า อุตสาหกรรมอะไรที่จะไป พรรคการเมืองไหนจะมา ?
การเปิดเสรีด้านการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือ อนาคต แรงงานระดับล่างจะไหลเข้าสู่ไทย เพื่อมารับค่าแรงขั้นต่ำแพง ๆ ส่วนแรงงานหัวกะทิจะสมองไหลไปสู่สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพื่อกินเงินเดือนแพง ๆ เช่นกัน โดยเฉพาะแพทย์ วิศวกร และอาจจะมี ไอที กับ การเงิน ตามไปด้วย การอพยพแรงงานจะทำให้เกิดการผสมกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรม และ ปัญหาสังคมตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กรรมสิทธิ์ในการครอบครองที่ดินอาจมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนตามไปด้วย
สิ่งที่น่าเป็นห่วงในการเคลื่อนย้ายเสรี ก็คือ วงการค้ายาเสพติด และค้ามนุษย์ มันจะลื่นไหลไปด้วยหรือเปล่า และการสวมสิทธิ์จากคนต่างชาตินอกอาเซียนที่แปลงสัญชาติเข้ามารับประโยชน์จากการเปิดเสรีในครั้งนี้ ทำให้มีความกังวลว่าต่อไปอู่ข้าวอู่น้ำบนแผ่นดินแหลมทองยังจะเป็นของคนไทยเราอยู่หรือเปล่า เพราะทำเลทองของอาเซียนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดก็คือประเทศไทยนั่นเอง ขวานทองของไทยจะเป็นอาวุธที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระดับโลก หรือเป็นเหยื่ออันโอชะที่เพื่อนบ้านจะมาจัดปาร์ตี้รุมกินโต๊ะ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเมืองไทยมีความพร้อมแค่ไหนในการรับมือกับการเปิดเสรีภายใต้กรอบ AEC ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ปี
สิ่งที่น่าเป็นห่วงในการเคลื่อนย้ายเสรี ก็คือ วงการค้ายาเสพติด และค้ามนุษย์ มันจะลื่นไหลไปด้วยหรือเปล่า และการสวมสิทธิ์จากคนต่างชาตินอกอาเซียนที่แปลงสัญชาติเข้ามารับประโยชน์จากการเปิดเสรีในครั้งนี้ ทำให้มีความกังวลว่าต่อไปอู่ข้าวอู่น้ำบนแผ่นดินแหลมทองยังจะเป็นของคนไทยเราอยู่หรือเปล่า เพราะทำเลทองของอาเซียนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดก็คือประเทศไทยนั่นเอง ขวานทองของไทยจะเป็นอาวุธที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระดับโลก หรือเป็นเหยื่ออันโอชะที่เพื่อนบ้านจะมาจัดปาร์ตี้รุมกินโต๊ะ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเมืองไทยมีความพร้อมแค่ไหนในการรับมือกับการเปิดเสรีภายใต้กรอบ AEC ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น