วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

” จะเปิด บัญชี หุ้น ” อย่างไร

สำหรับมือใหม่หัดเล่นหุ้นแล้วปัญหาแรกๆที่มักจะสงสัยกันเลยก็คือ ” จะเปิด บัญชี หุ้น ” อย่างไร เพราะเริ่มต้นเล่นหุ้นมันก็ต้องมีบัญชีสำหรับเล่นหุ้นโดยเฉพาะ ดังนั้นบทความนี้ก็ขอยกเนื้อเรื่องทั้งหมดให้กับมือใหม่ ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะลงทุนในหุ้นแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเปิดบัญชีอย่างไร? ใช้หลักฐานอะไรบ้าง? และบัญชีหุ้นมีกี่ประเภท? และสำหรับบทความนี้กระผมก็ขอยกตัวอย่างโดยเอาเกณฑ์ของหลักทรัพย์ธนชาติมาเป็นเกณฑ์เพื่อยกตัวอย่างให้ผู้อ่านไ้ด้ทราบกัน
เริ่มแรกเมื่อมือใหม่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะลงทุนในหุ้น จากนั้นก็ต้องมาเลือกก่อนว่าเราอยากจะเปิดบัญชีหุ้นประเภทอะไรซึ่งทุกๆธนาคารหรือหลักทรัพย์ก็จะมีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ ได้แก่
  1.    บัญชีประเภทเงินสดวงเงินอนุมัติ ( Cash-ATS Account ) เป็นบัญชีที่เมื่อเราส่งคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายทางบริษัทหลักทรัพย์ก็จะทำการหักเงินในบัญชีที่ท่านทำการผูกไว้กับทางบัญชีนี้โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะมีระยะเวลาที่จะต้องชำระเงินในการซื้อ 3 วันหลังจากทำรายการซื้อไปแล้ว ( ในกรณีที่ท่านต้องการจะซื้อหุ้นก่อนแต่เงินในบัญชียังมีไม่ถึงก็สามารถซื้อก่อนได้ แต่จะต้องนำเงินมาเติมในบัญชีให้ครบตามจำนวนที่ท่านได้ซื้อหุ้นนั้นๆไปภายใน 3 วัน ไม่อย่างนั้นจะต้องจ่ายค่าปรับ ) ในกรณีที่ท่านขายหุ้นก็เช่นกันท่านจะได้รับเงินหลังจากทำรายการไปแล้ว 3 วัน ( T+3 )
  2.    บัญชีประเภทวางเงินล่วงหน้า ( Cash Balance Account ) เป็นบัญชีที่ท่านจะต้องโอนเงินเข้าบัญชีนี้ก่อน ถึงจะซื้อหุ้นได้โดยจะซื้อขายได้เท่ากับเงินที่มีอยู่ในบัญชีเท่านั้น ( ผมเปิดบัญชีแบบนี้อยู่เพราะง่ายและที่สำคัญไม่ทำให้เราเล่นหุ้นแบบเกินตัวด้วย )
  3.    บัญชีประเภทกู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ ( Credit Balance Account ) เป็นบัญชีผู้ที่ต้องการจะกู้เงินเพื่อมาลงทุนนั้นจะต้องวางเงินสดหรือหลักประกันต่างๆไว้ และหลังจากนั้นธนาคารจะพิจารณาอัตราเงินที่จะอนุมัติตาม Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของท่าน และทางธนาคารก็จะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย

เคล็ดลับสำหรับมือใหม่อยากเล่นหุ้น

เมื่อเลือกได้แล้วว่าเราควรจะเปิดแบบไหนจากนั้นก็มาในเรื่องของหลักฐานการขอเปิดบัญชีซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก โดยสิ่งที่ผู้อ่านจะต้องเตรียมก็คือ
  1.    สำเนาบัตรประชาชน
  2.    สำเนาทะเบียนบ้าน
  3.    ใบสมัครขอเปิดบัญชี ( ที่ธนาคารผู้ให้เปิดบัญชีหลักทรัพย์จะมีให้เขียน )
  4.    Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ( ส่วนจะต้องมีเงินหมุนในบัญชีเท่าไหร่ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของบัญชีที่ต้องการจะเปิด )
เมื่อมือใหม่ทุกๆคนได้ยื่นขอเปิดบัญชีหุ้นแล้ว ก็จะต้องรอรับการอนุมัติเป็นเวลา 5-7 วัน หรือในบางที่เขาจะอนุมัติให้ไวมากอาจจะ 1-2 ก็เรียบร้อยแล้ว เมื่อท่านได้เปิดบัญชีเสร็จแล้วก็สามารถซื้อขายหุ้นกันได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งท่านก็สามารถซื้อได้กับโบรกเกอร์ของท่าน ( โดยการโทรไปบอกเขา ) หรือจะซื้อขายออนไลน์ก็ได้ ซึ่งจะมีข้อดีที่จะมีค่าคอมมิชชั่นที่ถูกกว่าการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์ ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ก็มีมากมายหลายอย่าง แต่ที่ผมใช้อยู่ก็คือ Steaming Pro ส่วนรายละเอียดต่างๆของโปรแกรมและเรื่องของค่าคอมมิชชั่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น